xs
xsm
sm
md
lg

“อัศวิน” ประกาศขอพัฒนากรุงเทพฯ 2 ปี ทำจริง เห็นผลจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศวาระการพัฒนากรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2561 ภายใต้นโยบาย NOW “ทำจริง เห็นผลจริง” ชูกรอบการทำงาน 100 วัน 200 วัน 300 วัน และ 1 ปี ติดตามงานที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ เน้นสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นและยั่งยืน

วันนี้ ​(22 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศวาระการพัฒนากรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2561 ภายใต้นโยบาย NOW “ทำจริง เห็นผลจริง” ชูกรอบการทำงาน 100 วัน 200 วัน 300 วัน และ 1 ปี เพื่อการติดตามงานที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นและยั่งยืน สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเจ้าของกรุงเทพฯ และร่วมพัฒนาเมืองไปพร้อมกัน

​ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม. ได้นำยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี วิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่หยุดนิ่ง มากำหนดเป็นวาระการพัฒนากรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2561 พร้อมเดินหน้านโยบาย NOW อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ทำจริง เห็นผลจริง” โดยมีกรอบระยะเวลา 100 วัน 200 วัน 300 วัน และ 1 ปี เป็นตัวกำหนดการทำงานที่ชัดเจนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ทุกโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพฯ สะอาด สะดวก ปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตดี และวิถีพอเพียง สำเร็จตามเป้าหมาย สิ่งที่ขาดหายไปก็จะได้รับการเติมเต็ม ในส่วนของเสียงสะท้อนจากประชาชนถึงจุดอ่อนและข้อบกพร่องต่างๆ ในปีที่ผ่านมา จะเร่งปรับปรุงแก้ไข เพื่อประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และทำกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นต่อไป

​สำหรับโครงการที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 100 วัน อาทิ การตั้งศูนย์ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานฯ กทม. และ 50 สำนักงานเขต เพื่อรักษาสภาพความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความสวยงามของคูคลอง ให้ยั่งยืน เพื่อเป็นการน้อมนำพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มาเป็นแนวทางในการร่วมกันพัฒนาสภาพแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น

​ในส่วนของงานบริการประชาชน ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ กทม. นั้น จะเดินหน้าทุกโครงการให้เห็นผลจริง ประชาชนได้รับประโยชน์และเกิดความพึงพอใจ อาทิ โครงการนัดหมอล่วงหน้ารักษาเร็วขึ้น​ เพียงนัดหมายผ่านศูนย์ BFC โรงพยาบาล​ เป็นการให้บริการนัดหมายล่วงหน้า ลดเวลาการรอคอยก่อนพบแพทย์ เดินหน้าโครงการทิ้งเป็นที่...เก็บเป็นเวลา ทั้งบนบกและริมน้ำครบทุกพื้นที่ 855 จุด ลดปัญหาขยะตกค้าง เปิดศูนย์สร้างสุขทุกวัย 9 ศูนย์ สร้างกิจกรรมหลากหลายดูแลคนทุกวัย โครงการ​ กทม.เคลื่อนที่สู่ชุมชน ซึ่งจะเป็นการนำบริการด้านต่างๆ ลงสู่ชุมชน ทั้งด้านการแพทย์ ทะเบียนราษฎร สัตว์เลี้ยง สิ่งแวดล้อม พร้อมฝึกอาชีพ อาทิ บริการคัดกรองมะเร็งสตรี การตรวจประเมินภาวะสุขภาพจิต ตรวจจอประสาทตา งานทันตกรรม หน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป หน่วยฝึกอาชีพเคลื่อนที่ บริการฉีดยุง ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและฝังไมโครชิป นอกจากนี้ จะได้เริ่มโครงการ Water Bank ธนาคารน้ำใต้ดิน และแก้มลิงเก็บน้ำตามศาสตร์พระราชาเพื่อพักน้ำยามฝนตกบริเวณจุดที่มีน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง รวม 10 จุด การสร้างถนนสายอัตลักษณ์ ด้วยพันธุ์ไม้บนถนนสายหลัก 9 สาย โครงการ กทม. เมืองสว่าง ไฟติดทุกดวงในสวนสาธารณะ สะพาน ถนน ตรอก และซอย รวมกว่า 6,065 จุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เป็นต้น

​การพัฒนาการศึกษาโรงเรียนสังกัด กทม. และส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนในสังกัด ถือเป็นภารกิจสำคัญยิ่ง ที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อสร้างมาตรฐานการเรียนรู้ และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสู่สังคม ซึ่งในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2561 หรือ 200 วันนับจากนี้ กทม.มีแผนงานต่างๆ ในการส่งเสริมการศึกษาให้แก่นักเรียน กทม. เพื่อเพิ่มคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาพร้อมมอบโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณค่า ต่อยอดการเรียนรู้ และสานฝันสู่อาชีพในอนาคต อาทิ ให้ทุนนักเรียน 100 คน เรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนในต่างแดน เพิ่มห้องเรียนไทย - อังกฤษ จาก 46 เป็น 52 โรงเรียน และห้องเรียนไทย - จีน 14 โรงเรียน เดินหน้าโครงการเด็กหลังห้อง ดูแลเด็กกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดและสร้างแรงบันดาลใจการเรียนรู้แก่เด็ก สร้างครูหัวใจ​ กทม.​โดยจัดสรรทุนเรียนครูปีละ 100 ทุน เป็นเวลา 5 ปี​ แก้ไขปัญหาขาดแคนครูในสังกัด จัดสรรโควตานักเรียนแพทย์และนักเรียนพยาบาล

​นอกจากนี้ โครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่จะทยอยแล้วเสร็จตามกำหนด เช่น Pipe Jacking หรือท่อลอดช่วยเพิ่มการระบายน้ำจะแล้วเสร็จใน 2 เส้นทาง จากทั้งหมด 10 เส้นทาง การปรับปรุงภูมิทัศน์ย่านปากคลองตลาด​ เปิดสวนสาธารณะฝั่งธนบุรีแห่งใหม่ 2 สวน ได้แก่ สวนเพชรเกษม 69 และสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 7 รอบพระชนมพรรษา เขตบางบอน และการเพิ่มช่องทางชำระภาษีและค่าธรรมเนียมผ่านโครงการ QR Payment กับ 9 ธนาคาร

​ในช่วงเวลา 300 วัน โครงการต่างๆ ที่ดำเนินการจะเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น เห็นกรุงเทพฯ เกิดความเปลี่ยนแปลง ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเปิดบริการครบทั้ง 50 เขต ปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนอีก 2 สาย (ถนนเชียงใหม่ตลอดสาย และถนนสุขุมวิท 65 ถึงสถานีรถไฟฟ้าบางจาก) แล้วเสร็จ ถนนอัตลักษณ์ด้วยพันธุ์ไม้สวยงามครบทั้ง 9 เส้นทาง พื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นด้วยสวนสาธารณะแห่งใหม่ย่านกาญจนภิเษก - ตัดพรานนก - พุทธมณฑลสาย 4 และการพัฒนาระบบนัดหมายออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อรับบริการด้านงานทะเบียนและการขออนุญาตต่างๆ เป็นต้น

​1 ปีจากนี้ โครงการที่เริ่มดำเนินการนับตั้งแต่ระยะ 100 วันแรก จะเห็นผลเป็นที่ประจักษ์เพื่อแก้ไขปัญหาเมือง และประชาชนได้รับการดูแลและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น สถานีดับเพลิงย่อย 5 สถานี ดอนเมือง พหลโยธิน ร่มเกล้า ลาดพร้าว ประเวศ แล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้ภายใน 1 ปี เพิ่มจำนวนโรงพยาบาล 2 แห่ง ได้แก่ ก่อสร้างโรงพยาบาลคลองสามวา และเปิดแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) ชั่วคราว โรงพยาบาลบางนา Water Bank ธนาคารน้ำใต้ดิน​ แล้วเสร็จทั้ง 5 จุด ได้แก่ บริเวณ สน.บางเขน สวนสาธารณะใต้สะพานข้ามแยก ถนนรัชดาภิเษก ตัดถนนวิภาวดีรังสิต ใต้สะพานข้ามแยกถนนกรุงเทพกรีฑา ตัดถนนศรีนครินทร์ ปากซอยสุทธิพร 2 ถนนอโศกดินแดง และหมู่บ้านเศรษฐกิจ​ และแก้มลิงเก็บน้ำตามศาสตร์พระราชา​ แล้วเสร็จ​ 4​ จุด​ Pipe Jacking แล้วเสร็จอีก 6 เส้นทาง คลองโอ่งอ่างได้รับการปรับปรุง เพื่อกรุงเทพฯ ปลอดภัย สวยงาม และส่งเสริมการท่องเที่ยว












กำลังโหลดความคิดเห็น