วชช. ยกเครื่องหลักสูตร อัปเกรดวิชาปฐมวัยสอดรับรัฐธรรมนูญ เตรียมเปิดสาขาดิจิทัลมาเก็ตติ้งป้อนตลาดสร้างรายได้ชุมชน
ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เดิมที่วิทยาลัยชุม (วชช.) ได้เปิดสอนหลักสูตรอนุปริญญาการปกครองท้องถิ่น การปฐมวัยคอมพิวเตอร์ธุรกิจ การจัดการทั่วไป และสาธารณสุขชุมชน ที่ผ่านมามีผู้นิยมสมัครเข้ามาเรียนเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้มีผู้สนใจมาเรียนในหลักสูตรดังกล่าวลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น วชช. ต้องปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง โดยต้องคิดมองหาหลักสูตรที่มีความจำเป็นและเป็นความต้องการของชุมชนนั้นๆ ทั้งในระดับอนุปริญญา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลักสูตรระยะสั้น
สำหรับหลักสูตรใหม่ที่ วชช. จะนำมาจัดการเรียนการสอนจะเน้นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นชุมชน การจัดการศึกษาเพื่อประกอบอาชีพ และการจัดการศึกษาระดับอนุปริญญา ทั้ง 3 รูปแบบนี้จะต้องจัดเชื่อมโยงกันได้ ที่สำคัญทุกหลักสูตรที่ วชช.จัดการสอนจะมุ่งเน้นความสามารถในการปฎิบัติเป็นสำคัญ ทุกคนที่เข้ามาเรียนเมื่อจบออกไปจะต้องปฏิบัติงานได้จริง โดยขณะนี้สถาบันวิทยาลัยชุมชน (สวชช.) กำลังจะจัดให้มีการวิพากหลักสูตรใหม่ๆ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอให้สภาสถาบันวิทยาลัยชุมชนได้พิจารณา และเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) อีกครั้งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรที่ สกอ. กำหนดอย่างแท้จริง โดยจะให้แล้วเสร็จภายในปีการศึกษา 2560
“ในเบื้องต้นหลักสูตรที่จะปรับปรุง เช่น หลักสูตรการปฐมวัย ต้องปรับให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลเด็กปฐมวัย ส่วนหลักสูตรที่คิดขึ้นใหม่เลย เช่น หลักสูตรดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ถือเป็นหลักสูตรที่กำลังเป็นความต้องการของตลาดอย่างมาก และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชนสามารถค้าขายผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้เอง” ดร.สิริกร กล่าว
ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เดิมที่วิทยาลัยชุม (วชช.) ได้เปิดสอนหลักสูตรอนุปริญญาการปกครองท้องถิ่น การปฐมวัยคอมพิวเตอร์ธุรกิจ การจัดการทั่วไป และสาธารณสุขชุมชน ที่ผ่านมามีผู้นิยมสมัครเข้ามาเรียนเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้มีผู้สนใจมาเรียนในหลักสูตรดังกล่าวลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น วชช. ต้องปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง โดยต้องคิดมองหาหลักสูตรที่มีความจำเป็นและเป็นความต้องการของชุมชนนั้นๆ ทั้งในระดับอนุปริญญา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลักสูตรระยะสั้น
สำหรับหลักสูตรใหม่ที่ วชช. จะนำมาจัดการเรียนการสอนจะเน้นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นชุมชน การจัดการศึกษาเพื่อประกอบอาชีพ และการจัดการศึกษาระดับอนุปริญญา ทั้ง 3 รูปแบบนี้จะต้องจัดเชื่อมโยงกันได้ ที่สำคัญทุกหลักสูตรที่ วชช.จัดการสอนจะมุ่งเน้นความสามารถในการปฎิบัติเป็นสำคัญ ทุกคนที่เข้ามาเรียนเมื่อจบออกไปจะต้องปฏิบัติงานได้จริง โดยขณะนี้สถาบันวิทยาลัยชุมชน (สวชช.) กำลังจะจัดให้มีการวิพากหลักสูตรใหม่ๆ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอให้สภาสถาบันวิทยาลัยชุมชนได้พิจารณา และเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) อีกครั้งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรที่ สกอ. กำหนดอย่างแท้จริง โดยจะให้แล้วเสร็จภายในปีการศึกษา 2560
“ในเบื้องต้นหลักสูตรที่จะปรับปรุง เช่น หลักสูตรการปฐมวัย ต้องปรับให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลเด็กปฐมวัย ส่วนหลักสูตรที่คิดขึ้นใหม่เลย เช่น หลักสูตรดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ถือเป็นหลักสูตรที่กำลังเป็นความต้องการของตลาดอย่างมาก และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชนสามารถค้าขายผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้เอง” ดร.สิริกร กล่าว