xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ยกเครื่อง 7 มาตรการความปลอดภัย รพ.สต.เผย 3 เรื่องทำทันที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สธ. ยกเครื่อง 7 มาตรการความปลอดภัย รพ.สต. ให้ทันสมัย เผย 3 มาตรการ ทำได้ทันที ทั้งกริ่งสัญญาณเตือนภัย ความร่วมมือระหว่างพื้นที่ งบดำเนินการ คาด 1 เดือนทราบผล

วันนี้ (17 ม.ค.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการความปลอดภัยของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ว่า สธ. เคยออกมาตรการความปลอดภัย 7 ข้อ ซึ่งกำลังสำรวจ ว่า มีมาตรการใดบ้างที่ต้องปรับแก้หรือเพิ่มเติมอย่างไร ไม่ใช่ว่าจะให้ทำมาตรการนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในการประชุมผู้บริหาร สธ. ทาง นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัด สธ. มีความเป็นห่วงและกำชับมาตรการที่สามารถดำเนินการได้ทันที คือ 1. เรื่องกริ่ง สัญญาณเตือนภัย ซึ่งจะติดตั้งทุก รพ.สต. โดยให้ไปดูว่ามีที่ใดยังขาดก็ให้ดำเนินการ ซึ่งจะติดตั้งที่บริเวณ รพ.สต. และบ้านพัก รวมทั้งป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 1,000 แห่งที่ใกล้กับ รพ.สต. และติดตั้งแล้ว

2. ความร่วมมือระหว่างในพื้นที่ ทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั้งแกนนำในหมู่บ้านหรือในชุมชน รวมไปถึงจิตอาสาต่างๆ ให้มาทำงานร่วมกันเป็นหูเป็นตา ว่า ในพื้นที่ของตนมีภัยอะไร และเกิดเหตุการณ์กี่ครั้ง เพื่อร่วมกันหาทางป้องกัน โดยมีผู้อำนวยการ รพ.สต. เป็นแกนในการประสานทำงาน และ 3. งบประมาณดำเนินการ จริงๆ จะมีในพื้นที่ แต่หากไม่เพียงพอให้ทำเรื่องส่งมายังส่วนกลางพิจารณาความจำเป็นต่อไป

“ขณะนี้ได้มอบหมายว่าแผนดำเนินการ 3 ข้อ สามารถทำได้ให้ทำทันที คาดว่า ภายใน 1 เดือนน่าจะทราบผลว่า ทำครบหรือไม่ ขาดกี่แห่ง รวมทั้งมาตรการความปลอดภัย 7 ข้อ มีข้อไหนที่ทำได้ ข้อไหนทำไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ผู้บริหารมีความเป็นห่วงตลอด” รองปลัด สธ. กล่าว

เมื่อถามถึงการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่ม จะช่วยได้หรือไม่ พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า กล้องซีซีทีวี จะเป็นการป้องปรามมากกว่า แต่การติดตั้งกริ่ง จะช่วยได้มากกว่า เพราะเมื่อเกิดเสียงดังขึ้นก็เหมือนการเป่านกหวีดขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า ทุกอย่างเราต้องยึดบริบทของความเป็นจริงในพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันไป

สำหรับมาตรการความปลอดภัย 7 ข้อ ประกอบด้วย 1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด/โรงพยาบาลแม่ข่าย จัดให้มีระบบป้องกัน ระบบเตือนภัย เช่น กล้องวงจรปิด กริ่งสัญญาณ เป็นต้น 2. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ เครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอ วิเคราะห์พื้นที่เพื่อกำหนดการจัดเวรนอกเวลาราชการ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนตามบริบทของแต่ละพื้นที่ 3.ส่งเสริมการใช้ช่องทาง สายด่วน 1669 ป้ายประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการเข้ารับบริการ รวมทั้งการมาติดต่อนอกเวลาราชการควรมีญาติมาด้วย 4. จัดเจ้าหน้าที่ชายหรือจัดระบบการขึ้นเวรคู่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ จิตอาสา อสม. ญาติ เพื่อนบ้านใกล้เคียงสถานบริการ 5. จัดให้มีระบบเวรยามรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ทั้งนี้ อาจดำเนินการร่วมกับ ภาคีเครือข่าย อบต.เทศบาล ผู้นำ กู้ชีพ กู้ภัย จิตอาสา ตำรวจ เป็นต้น 6. จัดหาป้อมยามชุมชนให้อยู่ใกล้ๆ หรือจัดระบบเชื่อมโยงที่ติดต่อได้ และ 7. สร้างรั้วชุมชน สัมพันธภาพเพื่อนบ้าน


กำลังโหลดความคิดเห็น