xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ เพชรบูรณ์ “ยอดครูผู้มีอุดมการณ์” ดูแลเด็กด้อยโอกาสกลับสู่สังคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผอ.ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ เพชรบูรณ์ รับรางวัลยอดครูผู้มีอุดมการณ์ ดูแลเด็กด้อยโอกาสกว่า 700 คน หวังเป็นคนดี มีจริยธรรม มีอาชีพ ไม่ทำผิดกฎหมาย ขอจัดสรรงบเทคโนโลยีช่วยดูแลเด็ก พ่วงนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ช่วยดูแลเด็กกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วันนี้ (16 ม.ค.) ดร.วุฒิศักดิ์ เหล็กคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 57 จังหวัดเพชรบูรณ์ หนึ่งในครูผู้ได้รับรางวัลยอดครูผู้มีอุดมการณ์ ในงานวันครูครั้งที่ 62 พ.ศ. 2561 “เฉลิมรัชสมัย ครูไทยพัฒนา” กล่าวถึงการรับรางวัลในครั้งนี้ ว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ เป็นโรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์ ในสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ให้การศึกษาในกลุ่มเด็กด้อยโอกาสทั้ง 10 กลุ่ม คือ 1. เด็กที่ถูกบังคับใช้แรงงาน หรือแรงงานเด็ก 2. เด็กเร่ร่อน 3. เด็กที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทางเพศหรือโสเภณีเด็ก 4. เด็กกำพร้าหรือเด็กที่ถูกทอดทิ้ง 5.เด็กถูกทำร้ายทารุณ 6. เด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจน (มากเป็นพิเศษ) ครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อปี 7. เด็กจากชนกลุ่มน้อย 8. เด็กที่ถูกผลกระทบจากยาเสพติด 9. เด็กที่ถูกผลกระทบจากโรคเอดส์หรือโรคติดต่อร้ายแรงที่สังคมรังเกียจ และ 10. เด็กในสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งเด็กในกลุ่มเหล่านี้ต่างเป็นกลุ่มที่เคยเกิดปัญหาและเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาขึ้นมากกว่าเด็กปกติ จึงต้องได้รับการดูแลอย่างมาก และจากการที่เป็นเด็กที่มีความแตกต่างกันมากก็ยิ่งมีความยากในการดูแล แต่ถึงจะมีความยากแต่ก็มีความสำคัญ ไม่สามารถทอดทิ้งได้

ดร.วุฒิศักดิ์ กล่าวว่า ตนบรรจุเข้ามาเป็นครูที่โรงเรียนแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2525 และเมื่อสอบเป็นผู้บริหารก็ได้มาเป็นผู้บริหารโรงเรียนแห่งนี้ได้ประมาณ 8 ปีแล้ว โดยโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำ มีนักเรียนประมาณ 700 กว่าคน ครูประมาณ 70 กว่าคน สอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยการเรียนการสอนในโรงเรียนจึงพยายามเน้นในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม การศึกษา การมีงานทำ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาภาระสังคม ไม่กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งก็เป็นการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างให้เด็กมีอาชีพและการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้

“เด็กด้อยโอกาสเหล่านี้มีความเสี่ยงในเรื่องปัญหาสังคมอย่างมกา และมีความแตกต่างกันมาก ต้องใช้จิตวิทยาในการสอนและดูแลต่างกันมากเช่นกัน ประถมก็ต้องดูแลอย่างหนึ่ง วัยรุ่นก็ต้องดูแลอย่างหนึ่ง อย่างบางคนพ่อแม่ทอดทิ้ง สภาพจิตใจถูกกระทบกระเทือน บอบช้ำ จะไปไหนก็ไม่ได้ ไม่มีให้อยู่ในหมู่บ้าน สิ่งที่อยากให้รัฐบาลช่วยเติมเตต็มในการดูแลนักเรียนกลุ่มนี้ คือ เรื่องความเข้มแข็งทางเทคโนโลยี โดยการจัดสรรงบประมาณเรื่องนี้ เพื่อให้เด็กเรียนรู้เท่าทันเหตุการณ์ และการมีนักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ที่เข้ามาช่วยดูแลร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์จิตใจหรือประเมินจิตใจเด็กกลุ่มนี้ไดีกว่าครู ก็จะช่วยให้การดูแลเด็กกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น” ดร.วุฒิศักดิ์ กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น