xs
xsm
sm
md
lg

เร่งสอบสาเหตุ “ผู้ใหญ่” ติดเชื้อโรตาไวรัสมากขึ้น ห่วงอาการรุนแรงกว่าเดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้เชี่ยวชาญไวรัสเร่งตรวจสอบสาเหตุ “ผู้ใหญ่” ติดเชื้อไวรัสโรตาในเด็กมากขึ้น ห่วงอาการรุนแรงขึ้นกว่าเดิม พะอืดพะอมกินเกลือแร่ไม่ได้ จนต้องนอนให้น้ำเกลือใน รพ. เร่งสอบทั้งระบบอาหาร น้ำ สุขาภิบาล เชื้อเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ย้ำล้างมือบ่อยๆ ป้องกันได้

วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับโรคอุจจาระร่วง จากกรณีการพบการป่วยโรคอุจจาระร่วง หรือท้องเสียจากเชื้อโรตาไวรัสในผู้ใหญ่ ซึ่งมี ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา และที่ปรึกษากรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน ซึ่งใช้เวลาในการประชุมมากกว่า 2 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 16.30 น. ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า โดยปกติแล้วโรตาไวรัสจะพบในเด็กเล็ก ไม่ค่อยพบในผู้ใหญ่ เนื่องจากเมื่อเด็กเป็นแล้วก็จะมีภูมิต้านทาน ไม่ค่อยอุจจาระร่วงจากเชื้อตัวนี้ หรือหากติดเชื้อก็จะเป็นแบบอ่อนๆ แต่ช่วงปลายปี 2560 ถึงต้น ม.ค. 2561 นี้ พบการป่วยในผู้ใหญ่มากขึ้นและค่อนข้างรุนแรง จนถึงกับต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งจากการติดตามจากห้องปฏิบัติการ (แล็บ) หลายแห่ง ก็ชัดเจนว่าพบการติดเชื้อโรตาไวรัสในผู้ใหญ่จริง และมีอาการรุนแรงกว่าเดิม คือ ถ่ายบ่อย ถ่ายมาก พะอืดพะอม มีไข้ อ่อนเพลียมาก จากที่คิดว่าไม่ต้องเข้านอนโรงพยาบาลเพราะเชื้อนี้ก็ต้องเข้ามานอนโรงพยาบาลหลายวัน อย่างไรก็ตาม แม้จะรุนแรงแต่การรักษาในโรงพยาบาลไม่น่าเสียชีวิต หากเข้าใจโรคนี้พอสมควร จากประเด็นเหล่านี้ ทำให้ต้องมาศึกษาว่า การระบาดเป็นอย่างไร และอะไรที่เป็นสาเหตุให้ผู้ใหญ่ติดเชื้อไวรัสนี้มากขึ้น หรือเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดยังต้องศึกษาค้นคว้า ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด

ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับการป้องกันโรคอุจจาระร่วง ยังคงย้ำว่าให้ดูแลสุขอนามัยให้ดี ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะก่อนและหลังเข้าห้องน้ำ และก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยลดการติดเชื้อและป้องกันได้ และหากมีอาการก็ให้รับประทานยาบรรเทาอาการ ไม่จำเป็นต้องซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทาน เพราะปัจจุบันไม่มียาฆ่าเชื้อ และให้รับประทานเกลือแร่ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ ซึ่งหากเป็นมากหรือมีอาการพะอืดพะอมมากจนทำให้รับประทานไม่ได้ ควรเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเกลือ เพราะหากขาดน้ำมากอาจทำให้เกิดการช็อกได้ ซึ่งหากเป็นไม่มากก็ให้ทางปาก แต่หากเป็นมากก็จะให้ทางเส้นเลือด

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่าอาหารตัวไหนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ จึงเชื่อว่าอาตเกิดการปนเปื้อนของเชื้อในระบบธรรมชาติทั่วไปแล้ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด ทั้งอาหาร น้ำ สุขาภิบาลต่างๆ เป็นต้น และจะหาคำตอบให้รวดเร็วที่สุด เพื่อสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจ แต่ยังย้ำว่ามาตรการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ยังใช้ได้ตลอด และขอให้ระมัดระวังในเรื่องของน้ำแข็ง นอกจากนี้ จะสื่อสารไปยังกลุ่มแพทย์ที่ดูแลคนไข้ ให้ระวังในเรื่องนี้มากขึ้น รวมถึงสถานพยาบาล ชุมชน โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สถานที่สาธารณะต่างๆ ให้มีการทำความสะอาดมากขึ้น

นพ.ภาณุมาศ กล่าวว่า จากการติดตามช่วง ต.ค. 2560 - ม.ค. 2561 พบว่าในผู้ใหญ่มีอัตราป่วยอุจจาระร่วงเฉียบพลันสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และสังเกตพบว่ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน พะอืดพะอมเยอะ ทำให้ทานเกลือแร่ไม่ได้ ทำให้โุว่าโรคมีความรุนแรง จนต้องมานอนรักษาในโรงพยาบาล จึงมีการตรวจสอบเพิ่มเติม จึงพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโรตาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะใน กทม.หรือเขตเมือง รวมถึงปริมณฑล ทั้งนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และชลบุรี ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักระบาดวิทยาและสำนักโรคติดต่อทั่วไปลงไปดูในเรื่องนี้แล้ว โดยส่วนใหญ่พบในวัยทำงาน อายุ 30 - 50 ปี แต่เมื่อเทียบกับการติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีแล้วยังถือว่าน้อย โดยอยู่ที่ประมาณ 10% แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับในต่างประเทศมีการพบรายงานอุจจาระร่วงในผู้ใหญ่จากเชื้อโรตาเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น