หมอผิวหนัง ชี้ “เลเซอร์ปิกาจูขาว” เสี่ยงกระทบเส้นเลือด เส้นประสาท เม็ดสีน้อยลงเสี่ยงติดเชื้อง่าย ชี้ ทำแล้วไม่ขาวถาวร เหตุมีการสร้างเม็ดสีขึ้นใหม่ ย้ำหนุ่มไทยจู๋สีคล้ำเป็นเรื่องธรรมชาติตามสีผิว พ่วงเสียดสีขาหนีบประจำ
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการโฆษณาทำเลเซอร์ปิกาจู หรือเลเซอร์อวัยวะเพศชายให้ขาว ว่า ทางการแพทย์มีการนำเลเซอร์มาใช้รักษาฝ้า กระ ปานแดง ปานดำ รวมถึงนำมาประยุกต์ในการทำให้ริมฝีปากหรือหัวนมมีสีชมพู แต่ยังไม่เคยมีการใช้เลเซอร์เพื่อทำให้อวัยวะเพศชายขาวขึ้น ทั้งนี้ หลักของการทำเลเซอร์ คือ ลดจำนวนเม็ดสีให้น้อยลง โดยจะไปทำลายเม็ดสีของผิว ซึ่งจะมีผลข้างเคียง 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ 1. ผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์ บริเวณอวัยวะเพศชายเป็นผิวหนังที่ค่อนข้างอ่อนไหว จึงไม่อยากให้เกิดการกระทบกระเทือน ที่สำคัญบริเวณอวัยวะเพศชายยังมีเส้นเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดปัญหาได้
2. ผลข้างเคียงจากเม็ดสีที่น้อยลง ซึ่งเม็ดสีถือเป็นปราการในการป้องกันผิวหนังต้านทานเชื้อโรค ต้านทานมะเร็งผิวหนัง เช่น เม็ดสีบริเวณแขนจะมีหน้าที่คอยต้านมะเร็งผิวหนัง ต้านแสงแดดสู้กับอนุมูลอิสระ เป็นต้น ดังนั้น การทำเลเซอร์จึงต้องพึงระวังว่าอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง รวมถึงทำให้เกิดแผลเป็นหรือเกิดการติดเชื้อ และเป็นการเสียเงินโดยไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการทำเลเซอร์ หากไม่ได้ทำโดยแพทย์เชี่ยวชาญอาจเกิดอันตรายและผลข้างเคียงได้
และ 3. การทำนั้นไม่ถาวรเพราะร่างกายจะมีการสร้างเม็ดสีขึ้นมาใหม่ทำให้ผิวบริเวณอวัยวะเพศชายกลับมาดำได้เหมือนเดิม ซึ่งการที่บริเวณอวัยวะเพศชายมีสีคล้ำ ส่วนหนึ่งเกิดจากสีผิวของคนไทยที่มีสีคล้ำ จึงเป็นเรื่องปกติที่บริเวณอวัยวะเพศชายจะดำมากกว่าบริเวณอื่นของร่างกายและถือเป็นเรื่องธรรมชาติ โดยสีขาวหรือดำของอวัยวะเพศชายนั้น ในเพศหญิงไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกทางเพศแต่อย่างใด
“ขอย้ำว่า หากการที่อวัยวะเพศชายดำแล้วไม่มีผลต่อการดำเนินชีวิตก็ไม่แนะนำให้ทำ และเท่าที่ได้ยินในต่างประเทศยังไม่เคยพบการกระทำในลักษณะนี้ นอกจากนี้ การทำเลเซอร์ตรงอวัยวะเพศชายยังไม่มีงานวิจัยที่รับรองว่าการทำดังกล่าวปลอดภัย 100% และต่อให้ทำการเลเซอร์ให้ผิวดำกลายเป็นขาวก็ไม่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร เพราะไม่นานผิวของอวัยวะเพศชายก็จะกลับมาดำเหมือนเดิม เนื่องจากร่างกายต้องมีการสร้างเม็ดสีขึ้นมาอีก และบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีการกระทบกระเทือนกับขาหนีบและมีการเสียดสีอยู่บ่อยๆ จึงเกิดสีคล้ำได้” พญ.มิ่งขวัญ กล่าว