กรมควบคุมโรคโต้กลับ ไม่ได้บิดเบือน “บุหรี่ไฟฟ้า” ยันมีอันตรายจริง ทำติดนิโคตินได้จริง ซัดงานวิจัยต่างประเทศปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป 95% แค่งานศึกษาเฉพาะกลุ่ม WHO ยังไม่ยืนยัน ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อใช้เป็นทางเลือกเลิกบุหรี่ แนะใช้ยาที่ขึ้นทะเบียน อย.ในการเลิกดีกว่า
วันนี้ (18 ธ.ค.) นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีข่าวกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) บิดเบือนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าว่าอันตราย พบสารพิษและโลหะหนักในบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งที่มีรายงานต่างประเทศว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไปร้อยละ 95 ว่า ขอให้ข้อมูลยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายต่อสุขภาพ และยังคงเป็นการเสพติดนิโคตินเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ทั่วไป ซึ่งนิโคตินเป็นสารเสพติดที่ทำให้คนที่ติดแล้วเลิกยาก บุคคลที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จึงมีโอกาสติดนิโคตินไปตลอดชีวิตเช่นเดียวกับบุหรี่ทั่วไป ส่วนกรณีรายงานในต่างประเทศว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไปกว่าร้อยละ 95 นั้น เป็นเพียงการประเมินจากผู้ทำการศึกษาวิจัยบางกลุ่มเท่านั้น โดยรายงานดังกล่าวองค์การอนามัยโลกก็ยังมิได้ออกมายืนยันแต่อย่างใด ซึ่งในปัจจุบันยังขาดหลักฐานทางวิชาการที่น่าเชื่อถือและเพียงพอที่จะนำไปสู่ข้อสรุปเกี่ยวกับความปลอดภัยของบุหรี่ไฟฟ้า
“ถึงแม้ว่าจะมีบางรายงานพบว่ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป แต่บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีอันตรายต่อสุขภาพ โดยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและการเสียชีวิตจากโรคปอด โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด นอกจากนี้ ผลจากการรวบรวมข้อมูลรายงานวิจัยต่างๆ แสดงให้เห็นว่า เยาวชนที่เริ่มแรกด้วยการสูบบุหรี่ไฟฟ้า มีแนวโน้มที่จะหันไปสูบบุหรี่ทั่วไปมากกว่าเยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้ายังทำให้มีการเพิ่มขึ้นของนักสูบหน้าใหม่อีกด้วย” นพ.อัษฎางค์ กล่าว
นพ.อัษฎางค์ กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ขอสนับสนุนให้ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ใช้วิธีการที่เป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในการเลิกสูบบุหรี่ และไม่สนับสนุนให้ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบที่อ้างสรรพคุณในการช่วยเลิกบุหรี่ได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะใช้เพื่อการเลิกสูบบุหรี่ ควรได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้มั่นใจว่ามีการรับรองมาตรฐานและมีความปลอดภัยในการใช้งาน ในโอกาสนี้ ขอให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพเมื่อสูบบุหรี่และผลกระทบต่อสุขภาพของคนรอบข้าง หากประชาชน ต้องการเลิกบุหรี่ สามารถโทรศัพท์ปรึกษาได้ที่ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ หมายเลข 1600 และมีคลินิกที่ให้บริการเลิกบุหรี่ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ 02-580-9237 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422