แพทย์เตือน อากาศเย็นแห้ง ทำผิวสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ส่งผลผิวแห้ง ลอก หยาบกร้าน คัน พบมากในผู้สูงอายุแนะเลี่ยงอาบน้ำอุ่นนานเกินไป ใช้สบู่ฆ่าเชื้อ ถูแกะเกา ยิ่งกระตุ้นการระคายเคือง อาจทำให้ลุกลาม เรื้อรัง ติดเชื้อได้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยลดลง หนาวเย็นกันเกือบทั่วประเทศเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (18 ธ.ค.) ว่า สภาพอากาศแห้ง การอาบน้ำร้อน และฟอกสบู่บ่อยเกินไป ส่งผลให้เกิดภาวะผิวแห้งได้ นอกจากนี้ ภาวะขาดแคลนสารอาหาร ผู้ป่วยโรคไตวายที่ต้องฟอกไต ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยโรคผิวหนังเกล็ดปลา ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ก็ยังสามารถเกิดภาวะผิวแห้งได้เช่นกัน ทั้งนี้ ภาวะผิวแห้งพบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มที่อายุมากกว่า 60 ปี เกิดจากการผลิตไขมันที่ผิวหนังน้อยลง การเก็บกักน้ำและไขมันที่ผิวหนังไม่ปกติ ส่งผลให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณหน้าแข้ง ต้นขา แขน และลำตัว อาการมักจะค่อยเป็นค่อยไป ถ้ามีการถูแกะเการ่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง อาจทำให้เกิดเป็นผื่นผิวหนังอักเสบ ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่นสีแดง ไม่เรียบ มีสะเก็ด แห้ง แตก ลอก จนถึงมีน้ำเหลืองไหล ติดเชื้อลุกลามมากขึ้นได้ ถ้าไม่ป้องกัน และดูแลรักษาให้ถูกวิธี
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า วิธีการป้องกันและรักษา คือ ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจนเกินไป ควรใช้สบู่ที่อ่อนโยน ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย เพราะอาจทำให้มีการระคายเคือง หรือคันเพิ่มขึ้น ควรทาครีมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ ถ้าผิวแห้งมากควรทาออย หรือน้ำมันร่วมด้วย และดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทายากันแดด ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ที่สำคัญ ต้องสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง หากมีอาการแสบ แดง คัน ลอก มากผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ