xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มๆ รีบเช็ก!! เส้นเลือด “อัณฑะ” โป่งพองหรือไม่ ทำเลือดเปื้อน กกน.ไม่รู้ตัว เสี่ยงมีบุตรยาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หนุ่มๆ เลือดเปื้อนผ้าเช็ดตัว - กางเกงในไม่รู้สาเหตุ อย่ากังวล!! สำรวจน้องชายตัวเองพบตุ่มคล้ายห้อเลือดที่อัณฑะหรือไม่ แพทย์ชี้เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือด มักพบในคนอายุมาก จากหลอดเลือดที่เสื่อมตามวัย ทำเส้นเลือดโป่งพอง ย้ำไม่อันตราย ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เตือนยิ่งเกายิ่งเลือดออก ชี้ พบในคนอายุน้อยควรตรวจเส้นเลือดดำขอดหรือไม่ เสี่ยงทำให้มีลูกยาก

นพ.วันชัย นัยรักษ์เสรี ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย จ.ชลบุรี กล่าวถึงกรณีผู้ชายหลายคนมีภาวะเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยมักพบเลือดที่ผ้าเช็ดตัว ทั้งที่ไม่มีบาดแผลในร่างกาย หรือบางคนพบเลือดเปื้อนกางเกงใน เมื่อสำรวจจึงพบว่าเกิดตุ่มคล้ายห้อเลือดบริเวณผิวหนังอัณฑะ บางคนมีน้อย บางคนมีมาก ทำให้เกิดความกังวลว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ และเป็นอันตรายหรือไม่ ว่า ภาวะดังกล่าวคือโรคเส้นเลือดผิวหนังอัณฑะโป่งพอง (Angiokeratoma of Fordyce) โดยเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยผิวหนังอัณฑะ ทำให้โป่งขึ้นออกมาเป็นตุ่มคล้ายห้อเลือดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ถือว่ามีอันตรายอย่างที่กังวล และไม่ได้เกิดจากการติดเชื้ออย่างที่กังวลแต่อย่างใด

“ภาวะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะผู้ชายในวัย 40 - 50 ปีขึ้นไป สามารถพบได้ราว 15% เนื่องจากหลอดเลือดก็จะเสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้น จึงทำให้เกิดภาวะดังกล่าวขึ้นมาได้ ซึ่งหากคนที่มีผิวหนังขาวหน่อยก็จะเห็นได้ชัดเจน แต่หากผิวคล้ำก็อาจเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเกิดขึ้นบริเวณหัวขององคชาติได้ แต่พบได้น้อย ส่วนมากมักพบบริเวณผิวหนังอัณฑะมากกว่า ซึ่งบางคนอาจมีอาการคัน เมื่อเกาบริเวณดังกล่าว จึงทำให้เล้นเลือดฝอยที่โป่งขึ้นมาแตก ทำให้เกิดเลือดออกได้” นพ.วันชัย กล่าว

นพ.วันชัย กล่าวว่า โรคนี้ไม่มีการรักษา เพราะไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบอะไรมาก เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความรำคาญและไม่สวยงามที่ผิวหนังอัณฑะมากกว่า ซึ่งหากไม่ได้ไปเกาอย่างรุนแรงก็จะไม่เกิดภาวะเลือดออก หรือเรียกว่ายิ่งไปเกาก็ยิ่งเลือดออก แต่หากกดไว้เลือดก็หยุดออกเองได้ แต่คนที่มีการกินยาแอสไพรินหรือยาต้านเกล็ดเลือดแล้วไปเกาจนเลือดออกอาจน่าเป็นห่วง เพราะจะทำให้เลือดออกตลอดเวลา ซึ่งบางคนหากเลือดออกมาก อาจใช้วิธีการรักษาโดยการจี้ไฟฟ้า เลเซอร์ หรือใช้ไนโตรเจนความเย็นในการจี้ออก แต่ก็เป็นวิธีที่เจ็บตัวเปล่าๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความผิดปกติของเส้นเลือดบริเวณดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับความดันโลหิตของร่างกาย หรือบ่งบอกถึงความผิดปกติของหลอดเลือดส่วนอื่นของร่างกายหรือไม่ นพ.วันชัย กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากเกิดขึ้นจากความดันโลหิตบริเวณอัณฑะสูง ไม่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนี้ บางคนพบร่วมกับโรคกรรมพันธุ์บางชนิด อย่างไรก็ตาม หากภาวะดังกล่าวพบเจอในคนหนุ่มหรืออายุยังน้อย แนะนำว่า ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติม เนื่องจากปกติจะพบในคนอายุมาก เพราะเส้นเลือดเสื่อมตามอายุของเขา แต่คนอายุน้อยอาจเกิดจากมีเส้นเลือดดำของอัณฑะขอดหรือไม่ ซึ่งสามารถอัลตราซาวนด์ตรวจดูได้

“หากเส้นเลือดดำอัณฑะขอด ก็จะส่งผลให้เลือดที่ส่งไปเลี้ยงอัณฑะไหลเวียนกลับออกไปได้ยาก จนเกิดอาการโป่งพองขึ้นที่เส้นเลือดฝอย อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้ไม่ส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ แต่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ คือ ทำให้มีบุตรได้ยากขึ้น เนื่องจากเมื่อเลือดไหลกลับออกได้ยาก ทำให้ตัวอัณฑะอุณหภูมิสูงขึ้น การสร้างอสุจิก็จะน้อยลง ทำให้มีบุตรได้ยากขึ้น” นพ.วันชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น