xs
xsm
sm
md
lg

อย่าแชร์! ชวนขาย “อสุจิ” ทำเครื่องสำอาง ผิด กม.อุ้มบุญ มีโทษหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แชร์วนกลับมาอีก! รับซื้อ “อสุจิ” ทำเครื่องสำอาง สบส.ชี้ผิดกฎหมายอุ้มบุญ ห้ามโพสต์แชร์ชักชวนให้มีการซื้อขาย โทษหนักคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท ย้ำไทยไม่มีธนาคารอสุจิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดียชักชวนให้จำหน่ายอสุจิเพื่อนำไปใช้ทำเครื่องสำอาง และหากเป็นเชื้อที่มีคุณภาพดีจะนำเข้าธนาคารอสุจิ โดยอ้างว่าเป็นธนาคารอสุจิรายแรกของประเทศไทย

วันนี้ (7 ธ.ค.) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นข้อมูลเก่าที่มีการแชร์ครั้งแรกในปี 2557 ในขณะนั้นประเทศไทยยังไม่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 แต่ปัจจุบันมีการบังคับใช้กฎหมายแล้ว เพื่อช่วยให้คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีบุตรยากได้มีบุตรตามต้องการโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ฯ และควบคุมการศึกษาวิจัย มิให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ไม่สามารถโพสต์ หรือแชร์ข้อความเชิญชวนให้มีการซื้อขายอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อนได้ หากฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ประเทศไทยยังไม่มีการก่อตั้งธนาคารอสุจิ รวมทั้งอสุจิ ไข่ ที่นำมาดำเนินการในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์จะมาจากการบริจาค ไม่มีการรับซื้อแต่อย่างใด ดังนั้น หากพบเห็นการโฆษณารับซื้อเชื้ออสุจิในลักษณะดังกล่าวอย่าได้หลงเชื่อ และขอความร่วมมือให้แจ้งเบาะแสมาที่กลุ่มคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2193-7000 ต่อ 18419, เฟซบุ๊กสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ และกองกฎหมาย หมายเลขโทรศัพท์ 0-2193-7000 ต่อ 18830, เฟซบุ๊กมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน เพื่อดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดต่อไป” นพ.ธงชัยกล่าว

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ สบส. กล่าวว่า สำหรับคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ต้องการจะมีบุตรโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ สามารถขอคำปรึกษาจากสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จากกรม สบส.ซึ่งขณะนี้มีทั้งสิ้นจำนวน 74 แห่ง ตั้งอยู่ใน 14 จังหวัด ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 2. ปทุมธานี 3. สมุทรสาคร 4. เชียงใหม่ 5. เชียงราย 6. พิษณุโลก 7. นครนายก 8. ชลบุรี 9. ขอนแก่น 10. นครราชสีมา 11. อุดรธานี 12. นครศรีธรรมราช 13. ภูเก็ต 14. สงขลา โดยก่อนรับบริการ ให้ตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่เว็บไซต์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (http://mrd-hss.moph.go.th) เพื่อความมั่นใจว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด
กำลังโหลดความคิดเห็น