กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สุ่มเก็บผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ใช้ในครัวเรือนและทางสาธารณสุข มาทำการตรวจวิเคราะห์ 50 ตัวอย่าง พบว่าทุกตัวอย่างปลอดภัยจากสารฟอร์มัลดีไฮด์ ระวังอย่าให้เข้าตา ปาก จมูก ควรสวมถุงมือยาง รองเท้ายาง เมื่อเสร็จงานควรล้างมือล้างเท้าด้วย
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ใช้ทั่วไปตามบ้านเรือน หรือทางสาธารณสุขมีการนำสารกลุ่มอัลดีไฮด์ ได้แก่ ฟอร์มัลดีไฮด์ กลูตารัลดีไฮด์ และ ไกลออกซอล มาใช้เป็นส่วนประกอบเพื่อประโยชน์ในการฆ่าเชื้อโรค และทำความสะอาด แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฟอร์มัลดีไฮด์มีกลิ่นรุนแรง เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ดวงตา เป็นสารไวไฟ มีพิษสูง และอาจเป็นสารก่อมะเร็ง กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกประกาศกำหนดให้สารฟอร์มัลดีไฮด์เป็นสารห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ใช้ในบ้านเรือน
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีภารกิจในการคุ้มครองผู้บริโภค คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน จึงได้มีการเฝ้าระวังติดตามคุณภาพของผลิตภัณฑ์เหล่านี้หลังการจำหน่าย โดยการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสาร กลูตารัลดีไฮด์ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่มีขายในท้องตลาดว่ามีการนำฟอร์มัลดีไฮด์ มาปลอมปนหรือไม่
สำหรับในปีงบประมาณปี 2560 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำการสำรวจคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค ที่ใช้ในบ้านเรือน ทำความสะอาดพื้น ฝาผนัง เครื่องสุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ โดยเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปดังกล่าว จำนวน 50 ตัวอย่าง ในเขตกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล ผลการทดสอบทุกตัวอย่าง ไม่พบสารฟอร์มัลดีไฮด์ แสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่ใช้ในครัวเรือนมีความปลอดภัย และผู้ประกอบการตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค มีการคัดเลือกและควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบในกลุ่มอัลดีไฮด์ที่ผลิต หรือนำเข้า ส่งตรวจคุณภาพวัตถุดิบ กลูตารัลดีไฮด์ ก่อนนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
นพ.สุขุม แนะนำว่า ประชาชนควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่มีมาตรฐาน และจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยความระมัดระวัง อย่าให้เข้าตา ปาก จมูก ควรสวมถุงมือยาง รองเท้ายาง หลีกเลี่ยงการสูดดมไอสาร และเมื่อเสร็จงานต้องล้างมือล้างเท้าให้สะอาดด้วย