xs
xsm
sm
md
lg

12 ข้อป้องกันคลอดก่อนกำหนด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศิริราชเผย “หญิงท้อง” คลอดก่อนกำหนด มักขาดความรู้การดูแลขณะตั้งครรภ์ เดินหน้าให้ความรู้พนักงาน ผู้บริหารสถานประกอบการ เพิ่มการดูแลหญิงท้องในระหว่างทำงาน ลดภาวะแทรกซ้อน คลอดก่อนกำหนด พร้อมแนะ 12 ข้อปฏิบัติป้องกันคลอดก่อนกำหนด

วันนี้ (16 พ.ย.) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แถลงข่าว “โครงการพัฒนาสถานประกอบการต้นแบบด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่อง การส่งเสริมสุขภาพพนักงานและครอบครัว เนื่องในวันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก” ว่า จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากมารดาที่คลอดบุตรก่อนกำหนด พบว่า ประมาณร้อยละ 60 - 70 ของหญิงอายุในช่วง 20 - 34 ปี ยังไม่มีความรู้เรื่องการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด เป็นเหตุให้เข้ามารับการรักษาล่าช้า แพทย์จึงไม่สามารถยับยั้งภาวะเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดได้สำเร็จ โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้ทำงานในสถานประกอบการ ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทำให้พนักงานขาดการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ และเกิดภาวะแทรกซ้อน จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการดังกล่าว ในปี 2558 ซึ่งนำร่องในสถานประกอบการต้นแบบ 4 องค์กร เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานตระหนักถึงอันตรายของการคลอดก่อนกำหนด มีให้ความรู้แก่พนักงาน และให้หน่วยงานและพนักงานช่วยเหลือพนักงานที่ตั้งครรภ์ในรูปแบบจิตอาสา หรือ เพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อลดอุบัติการณ์ของการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพของมารดา ทารก และครอบครัว

ศ.คลินิก นพ.ธราธิป โคละทัต ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพัฒนาสถานประกอบการต้นแบบฯ กล่าวว่า จากผลการศึกษาปัญหาภาวะคลอดก่อนกำหนดทั่วประเทศ พบว่า มารดาคลอดบุตรมักมีข้อจำกัดด้านองค์ความรู้ เศรษฐานะ และระยะเวลาการลาคลอด เป็นเหตุให้พนักงานส่วนหนึ่งขาดการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ การดูแลตนเองและทารกในครรภ์อาจไม่เหมาะสม บางรายจึงเกิดภาวะแทรกซ้อนกับตนเองและทารกในครรภ์ การสร้างเสริมสุขภาพและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพนักงาน เพื่อให้มีภาวะสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ระหว่างการตั้งครรภ์ จึงเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยป้องกัน หรือ ลดความรุนแรงจากภาวะคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ โดยการให้ความรู้ที่จำเป็นแก่พนักงานก่อน การตั้งครรภ์ การดูแลห่วงใยด้วยความเอื้ออาทรจากกลุ่มเพื่อนพนักงานด้วยกันเอง ภายใต้การสนับสนุนของผู้บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลคณะทำงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

“หากผู้บริหารเห็นความสาคัญ ให้การสนับสนุน และนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมด้านแรงงาน จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงาน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่งขององค์กร นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยทำให้พนักงานคงทำงานให้กับองค์กร เป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรระยะยาว ช่วยลดต้นทุน ลดการเสียโอกาสในการทำธุรกิจ สร้างความมั่นคงในสภาพการจ้างงานให้กับพนักงาน เกิดภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่ยอมรับของสังคมและชุมชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร ประโยชน์ที่จะได้รับ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยง และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ รวมทั้งการคลอดก่อนกำหนดในสถานประกอบการแล้ว ยังเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำกิจกรรมร่วมกับโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดา ทารก และครอบครัวไทย” ศ.คลินิก นพ.ธราธิป กล่าว

สำหรับข้อปฏิบัติพื้นฐานเพื่อป้องกันภาวะคลอดก่อนกำหนด คือ 1. ฝากครรภ์ครั้งแรกก่อน 12 สัปดาห์ 2. ยืนยันอายุครรภ์ถูกต้องก่อน 20 สัปดาห์ 3. มีความรู้ป้องกันคลอดก่อนกำหนด 4. มาตรวจครรภ์ให้ครบตามนัดหมาย 5. เลี้ยงทารกในครรภ์ให้เติบใหญ่ 6. กินยาตามแพทย์สั่งมิให้ขาด 7. ทำความสะอาดทุกส่วนให้สะอาด 8. ไม่ก้าวพลาด เดินอย่างระมัดระวัง 9. หาเวลาพักผ่อนและนอนหลับ 10. ปรึกษาแพทย์ พยาบาล หากสงสัย 11. สามี เพื่อน เจ้านาย โปรดเข้าใจ และ 12. ต้องมั่นใจ ดูแลได้ ปลอดภัย
กำลังโหลดความคิดเห็น