xs
xsm
sm
md
lg

สอนลูกต้องรู้เรื่อง “เงิน” ในบ้าน/ สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คุณเคยเปิดอกคุยเรื่องเงินกับลูกหรือไม่ !
คุณเคยเล่าเรื่องฐานะการเงินของครอบครัวกับลูกหรือไม่ !
คุณเคยบอกลูกว่าได้เงินมาอย่างไรหรือไม่ !
และ..คุณเชื่อหรือไม่ มีพ่อแม่จำนวนมากที่ไม่เคยคุยเรื่องเงินกับลูก !
หลายเหตุผลของพ่อแม่ที่ไม่คิดว่าต้องคุยกับลูกเรื่องเงิน เพราะลูกยังเล็ก, เพราะไม่ได้ใส่ใจ ก็เมื่อลูกอยากได้อะไรก็ซื้อให้อยู่แล้ว, เพราะไม่คิดว่าจำเป็น, เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่, เพราะไม่อยากให้ลูกรู้ ฯลฯ
ที่จริงอย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ นะคะ เพราะเรื่อง “เงิน” เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว
ยิ่งสังคมยุคทุนนิยมอย่างในปัจจุบันที่เจอเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวไกล ต่อให้คุณไม่ออกจากบ้านเลย ก็ต้องมีเรื่องให้เสียเงินอยู่ดี
โดยปกติตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราก็ต้องเผชิญกับการใช้เงิน เริ่มตั้งแต่การเดินทางออกจากบ้าน อาหาร 3 มื้อ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายซื้อของระหว่างวัน เรียกว่า ค่าใช้จ่ายจิปาถะเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ ตามความคิดว่าจำเป็นของแต่ละคน มีทั้งที่จำเป็นแบบเร่งด่วน จำเป็นแบบรอได้ หรือไม่จำเป็นแต่อยากได้ เพราะปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุอยู่รอบทิศทาง ที่พร้อมจะทำให้เราควักเงินจ่ายได้เรื่อยๆ ถ้าไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
ยิ่งครอบครัวที่มีลูก ค่าใช้จ่ายจะงอกเพิ่มพูนขึ้นทันที และโปรดตระหนักไว้ด้วยว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มตามอายุลูกที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้น ถ้าไม่มีการเตรียมรับมือหรือวางแผนที่ดี ก็อาจมีปัญหาตามมาแน่นอน
แต่การเตรียมตัววางแผนเรื่องเงินที่ดี ก็ควรต้องคำนึงให้ลูกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย ให้เขาได้เรียนรู้จักเรื่อง “เงิน” ผ่านการใช้ชีวิตของเขาพร้อมครอบครัวตั้งแต่เล็ก ตามวัยของเขาอย่างเหมาะสม
ผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่มักบ่นเด็กยุคปัจจุบันว่าใช้เงินเก่ง ใช้เงินเกินตัว ใช้เงินแบบไม่ยับยั้งชั่งใจ ใช้เงินแบบไม่รู้คุณค่า ใช้เงินแบบไม่คุ้มค่า ใช้เงินแบบไม่คิด ฯลฯ
คำถามคือ แล้วทำไมเด็กจำนวนไม่น้อยเป็นเช่นนี้ ?
คำตอบคือ เพราะพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ในบ้านก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาด้วยมิใช่หรือ !
พ่อแม่ได้ตระหนักว่าเรื่อง “เงิน” เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต้องให้ลูกได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมหรือไม่
แม่ต้องเป็นแบบอย่าแล้วพ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องเงินผ่านชีวิตประจำวันได้อย่างไร
หนึ่งพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่าง 
วิธีเริ่มต้นที่ดีที่สุด พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของการใช้เงิน ให้เขาได้เรียนรู้และซึมซับจากชีวิตประจำวันที่เห็นพ่อแม่ปฏิบัติตัว เป็นการเรียนรู้ทางตรงที่ได้ผลมากที่สุด และพฤติกรรมการใช้เงินเหล่านั้นจะติดตัวเขาไปจนโต
สองสอนลูกให้รู้คุณค่า
เพราะหากเขาได้เงินมาง่าย เขาก็ย่อมใช้จ่ายไปได้ง่ายๆ เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง โดยไม่เห็นคุณค่าของเงินที่พ่อแม่หามาอย่างยากลำบาก และมักจะเข้าใจเอาเองว่าพ่อแม่มีเงินอยู่แล้ว เมื่อเขาอยากได้อะไรก็ขอพ่อแม่เอาเท่านั้น
สาม เปิดอกคุยกัน
พ่อแม่ควรเปิดอกคุยกับลูกทั้งในเรื่องสถานะทางการเงิน เป้าหมายเรื่องการเงินของครอบครัว แม้แต่มีภาระหนี้สินก็ควรบอกเช่นกัน เพื่อให้ลูกได้รับรู้ถึงฐานะการเงินที่แท้จริง จะได้ระมัดระวังไม่จ่ายเงินเกินตัว ข้อนี้สำคัญมาก เพราะบางครอบครัวไม่อยากให้ลูกรู้ถึงฐานะการเงินที่แท้จริง ลูกก็ไม่รู้ ฉะนั้น เขาอยากได้อะไรก็มักร้องขอ เพราะเข้าใจเอาเองว่าพ่อแม่มีเงินที่จะซื้อให้ ตรงกันข้ามถ้าพ่อแม่พูดความจริงกับลูกว่าตอนนี้พ่อแม่ติดขัดอย่างไร และให้ลูกช่วยกันประหยัดด้วย ถ้าลูกรับรู้เรื่องราวภายในบ้านมาโดยตลอด เขาจะเข้าใจและจะทำให้ลูกเห็นคุณค่าของตัวเองที่จะช่วยพ่อแม่ประหยัดด้วย
สี่ฝึกให้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
การฝึกให้ลูกรับผิดชอบค่าใช้จ่ายบางอย่าง โดยช่วงแรกอาจต้องให้คำแนะนำและคอยดูแลการใช้จ่ายอย่างใกล้ชิด อาจสอนให้เขารู้จักทำงบประมาณ ใช้เงินและออมเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ถ้าจะให้ดี พ่อแม่อาจพาลูกเข้าธนาคารโดย เปิดบัญชีออมทรัพย์ให้เขา เด็กๆ จะตื่นเต้นที่มีบัญชีเป็นของตัวเอง พร้อมกันนั้นก็ถือโอกาสอธิบายให้ฟังว่า ถ้าเขานำเงินมาฝากเป็นประจำ จำนวนเงินในบัญชีก็จะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังอธิบายเรื่องดอกเบี้ยให้ลูกได้เข้าใจด้วย
ห้าลองหารายได้ด้วยตัวเอง
เมื่อเด็กๆ มีความรับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ของตัวเองได้ดีแล้ว พ่อแม่ก็อาจจะให้เขาเรียนรู้ที่จะหารายได้ด้วยตัวเอง เริ่มจากงานง่ายๆ ในบ้าน โดยเป้าหมายสำคัญไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินที่ได้ แต่เป็นการสอนให้เขารู้ถึงคุณค่าของเงินที่กว่าจะหามาได้ในแต่ละบาทหกได้เงินเพราะทำงาน
เป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายเงินที่หามาได้อย่างรู้คุณค่าจนเป็นนิสัย เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่า ถ้าต้องการสิ่งของสิ่งใดต้องใช้เงินแลก และคนเราก็ต้องหาเงิน ไม่ใช่อยู่ ๆ จะมีเงินขึ้นมาได้ จากนั้นก็สอดแทรกให้ลูกเรียนรู้ว่าจำเป็นต้องเลือกความสำคัญ และความจำเป็นในการจะซื้อของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
อย่าลืมว่า ถ้าเด็กๆ สามารถขอเงินพ่อแม่แล้วได้ตลอด เด็กคนนั้นมักมีแนวโน้มที่จะขาดความรับผิดชอบทางด้านการเงิน เพราะเขาจะคิดว่าเวลามีปัญหาก็แบมือขอพ่อแม่ได้ทุกที จนติดเป็นนิสัย
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ควรสอนลูกให้รู้ว่าแม้เงินเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต มีไว้เพื่อซื้อหาสิ่งของที่ต้องการ แต่เงินก็ไม่ได้ซื้อได้ทุกสิ่งที่ต้องการ ยังมีคุณค่าของความดีงามด้านอื่นๆ ในชีวิตที่เงินทองซื้อหาไม่ได้ เช่น ความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การแบ่งปัน ฯลฯ ซึ่งเป็นคุณค่าที่สำคัญและยิ่งใหญ่ในการดำรงชีวิตของมนุษย์
กำลังโหลดความคิดเห็น