xs
xsm
sm
md
lg

พม.เร่งมือสร้างบ้านมั่นคงมิตตคาม รองรับชุมชนจากริมฝั่งเจ้าพระยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นประธานในพิธียกเสาบ้านของโครงการฯ
นนทบุรี - รมว.พม. ประธานในพิธียกเสา ‘บ้านมั่นคงมิตตคามร่วมใจ’ รองรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยาจำนวน 63 ครัวเรือน พร้อมมอบงบสนับสนุนการสร้างบ้าน 27 ล้านบาทเศษ

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เป็นพื้นที่สันทนาการ เส้นทางจักรยาน สถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งเป็นพื้นที่ชมทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร รับผิดชอบดำเนินโครงการดังกล่าว และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จัดทำโครงการรองรับที่อยู่อาศัยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวร่วมกับชุมชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีประชาชนย้ายออกจากพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและเข้าอยู่ในที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ คือ ที่แฟลต ขส.ทบ. เขตดุสิต จำนวน 64 ครัวเรือน โครงการบ้านเอื้ออาทรท่าตำนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 17 ครัวเรือน

ล่าสุด วันนี้ (9 พ.ย.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และคณะ ได้เดินทางมาที่สถานที่ก่อสร้าง ‘โครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามร่วมใจ’ ตั้งอยู่ที่ซอยสุขาภิบาลบางใหญ่ 9 อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อเป็นประธานในพิธียกเสาบ้าน และมอบงบประมาณสนับสนุนการสร้างบ้านจำนวน 27.5 ล้านบาทเศษ โดยมี นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ นายสมพร ใช้บางยาง ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ตัวแทนหน่วยราชการในท้องถิ่น และประชาชนจากเครือข่ายพัฒนาที่อยู่อาศัยต่างๆ เข้าร่วมงานประมาณ 200 คน

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้จัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อพัฒนาเป็นประเทศที่ก้าวหน้า มีความสามารถในการแข่งขัน มีเศรษฐกิจที่ดี มีความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการพัฒนาคน และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยของประชาชนที่มีรายได้น้อย จึงมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จัดทำแผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัย 20 ปี เริ่มจากปี 2560 - 2579 มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนไทยทุกครัวเรือนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ซึ่งจากการสำรวจข้อมูล พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนครัวเรือนทั่วประเทศประมาณ 21 ล้านครัวเรือน แต่ยังขาดแคลนที่อยู่อาศัยอีกประมาณ 5 ล้านครัวเรือน
สถานที่ก่อสร้าง ‘โครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามร่วมใจ’  ตั้งอยู่ที่ซอยสุขาภิบาลบางใหญ่ 9  อ.บางใหญ่  จ.นนทบุรี
“กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัย 20 ปี โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2579 ประชาชนไทยทุกครัวเรือนจะต้องมีที่อยู่อาศัยอย่างทั่งถึง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยคนไร้บ้าน โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในคลองลาดพร้าว โครงการปทุมธานีโมเดล รวมทั้งโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับชุมชนริมฝั่งเจ้าพระยาก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์นี้ด้วย ทำให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ถูกกฎหมาย ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็สามารถพัฒนาพื้นที่ริมคลองและริมฝั่งเจ้าพระยาให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมได้” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว

รมว.พม. กล่าวด้วยว่า โครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามฯ ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ อยู่ใกล้กับสำนักงานเทศบาลตำบลบางใหญ่ เมื่อได้บ้านแล้วก็ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันรักษาเอาไว้ อย่าไปขาย และต้องช่วยกันพัฒนาชุมชนให้มีความมั่นคง ปลอดภัย มีสิ่งแวดล้อมที่ดี และช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งเรื่องเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ

นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ (พอช.) กล่าวว่า พอช. ได้จัดทำแผนงานรองรับประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ 3 เขต คือ ดุสิต บางซื่อ และ บางพลัด จำนวน 12 ชุมชน รวม 309 ครัวเรือน ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านจำนวน 5 ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบเข้าอยู่อาศัยในแฟลต ขส.ทบ. ย่านเกียกกาย เขตดุสิต ตั้งแต่ปลายปี 2559 ที่ผ่านมา จำนวน 64 ครัวเรือน โครงการบ้านเอื้ออาทรท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จำนวน 17 ครัวเรือน และโครงการบ้านมั่นคงชุมชนมิตตคามร่วมใจที่มีพิธียกเสาบ้านมั่นคงในวันนี้ จำนวน 63 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าอยู่อาศัยจะต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐหรือไม่มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยต้องอาศัยอยู่ในชุมชนจริงในชุมชนต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องผ่านมติการรับรองจากชุมชน ต้องเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์หรือสหกรณ์ฯ และต้องไม่มีที่ดินหรือบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ

สำหรับที่ดินที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ขนาดพื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน 56 ตารางวา เป็นที่ดินที่บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพฯ หรือ BAM ขายให้แก่ชุมชนในราคาพิเศษ (ราคาที่ดิน 10.7 ล้าน) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย โดย พอช.สนับสนุนสินเชื่อ จำนวน 10,165,000 บาท ชุมชนสมทบเพิ่ม 535,000 บาท (เฉลี่ยราคาที่ดินตารางวาละ 14,382 บาท) โดยแบ่งเป็นที่อยู่อาศัย 70% พื้นที่สาธารณะ 30 %

ขนาดที่ดินต่อครอบครัว ขนาด 10 ตารางวา จำนวน 42 แปลง ขนาด 12 ตารางวา จำนวน 2 แปลง ขนาด 15 ตารางวา จำนวน17 แปลง และขนาด 22.5 ตารางวา จำนวน 2 แปลง ส่วนแบบบ้านเป็นบ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 4 X 7 ตารางเมตร (ราคาก่อสร้างหลังละ 240,000 บาท) รวมงบประมาณก่อสร้าง 15,120,000 บาท พอช.สนับสนุนสินเชื่อ จำนวน 12,515,000 บาท ชุมชนสมทบเพิ่ม 2,605,000 บาท ระบบสาธารณูปโภค พอช. สนับสนุน จำนวน 3,150,000 บาท และงบบริหารจัดการ 157,500 บาท รวมงบประมาณทั้งโครงการ 30,702,500 บาท (พอช.สนับสนุน 27,562,500 บาท และงบประมาณที่ชาวบ้านสมทบ 3,140,000 บาท)

นายไพฑูรย์ ทัพละม่อม ประธานสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงมิตตคามร่วมใจ จำกัด กล่าวว่า ชาวบ้านที่จะเข้าอยู่อาศัยในโครงการนี้มาจากชุมชนมิตตาม 1, มิตตคาม 2 และราชผาทับทิม รวม 63 ครัวเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายและรับจ้างทั่วไป โดยได้จัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมาเพื่อบริหารงาน และให้ออมทรัพย์เป็นครัวเรือน เพื่อสมทบเป็นทุนในการซื้อที่ดินและสร้างบ้าน ซึ่งแต่ละครัวเรือนจะต้องออมให้ได้จำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินที่จะใช้สินเชื่อจาก พอช. (ครัวเรือนละไม่เกิน 360,000 บาท) ผ่อนระยะ 20 ปี หรือ 240 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 2,580 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4%

“ตามแผนงานการก่อสร้างจะใช้เวลา 180 วัน หรือจะแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายนปี 60 หลังจากนั้นพวกเราจึงจะย้ายเข้าไปอยู่ ส่วนแผนงานในการสร้างอาชีพให้ชาวบ้านนั้น ผมเห็นว่าที่ตั้งของชุมชนติดถนนทั้ง 3 ด้าน และมีหมู่บ้านต่างๆ ตั้งอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะใช้พื้นที่หรือลานสาธารณะของชุมชนเป็นพื้นที่ค้าขาย เช่น ขายอาหาร หรือจัดเป็นตลาดนัด เพื่อให้ชาวชุมชนมีรายได้ และไม่เป็นภาระในการผ่อนชำระเรื่องบ้าน” นายไพฑูรย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น