สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงมีพระราชดำริจัดตั้ง “สุขศาลาพระราชทาน” ใหม่ 3 แห่ง ในพื้นที่ทุรกันดาร อ.บ่อเกลือ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน กรมสุขภาพจิตดำเนินการพัฒนาวางระบบบริการให้มีมาตรฐานทั้งยามปกติและฉุกเฉิน ส่งเสริมสุขภาพกายและจิต เน้นเด็กเล็กมีพัฒนาการสมวัย ไอคิว อีคิวดี
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่โรงแรมน่านตรึงใจ อ.เมือง จ.น่าน น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข ครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ใน จ.น่าน ในการร่วมจัดบริการสาธารณสุขของสุขศาลาพระราชทานให้มีมาตรฐาน ว่า ในปี 2560 นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงห่วงใยปัญหาสุขภาพประชาชน มีพระราชดำริให้จัดตั้งสุขศาลาพระราชทานขึ้นใหม่ในพื้นที่ห่างไกลในจังหวัดน่าน ซึ่งมีสภาพเป็นภูเขา จำนวน 3 แห่ง คือ ที่ อ.บ่อเกลือ 2 แห่ง ได้แก่ ที่บ้านป่าก่ำ ต.ดงพญา และที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 21 ตุลาคม พ.ศ. 2543 ต.บ่อเกลือเหนือ และที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 แห่งคือที่บ้านห้วยปูด ต.ขุนน่าน
“ทั้ง 2 อำเภออยู่ติดชายแดนไทย - ลาว ห่างไกลจากอำเภอเมือง 85 - 130 กิโลเมตร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพมาตรฐานตามแนวทางพระราชดำริในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน โดยสุขศาลาพระราชทานบ้านป่าก่ำ ต.ดงพญา จะเริ่มเปิดให้บริการเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ส่วนอีก 2 แห่ง จะเร่งดำเนินการเปิดบริการโดยเร็ว” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสุขภาพจิตได้น้อมนำพระราชดำริโดยร่วมมือกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ดำเนินการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของสุขศาลาพระราชทานที่จัดตั้งใหม่ทั้ง 3 แห่ง ให้มีมาตรฐาน ทั้งด้านสถานที่ เครื่องมือแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น การเตรียมความพร้อมบุคลากรในการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยทั้งโรคทั่วไป โรคตามฤดูกาลเช่นโรคมาลาเรีย ไข้เลือดออก การปฐมพยาบาล การเย็บแผล การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน การบริการการแพทย์ทางไกล การส่งต่อผู้ป่วยหนักไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ซึ่งในปีนี้ได้เพิ่มเรื่องการส่งเสริมสุขภาพจิตเข้าไปด้วย เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพสมบูรณ์ครบถ้วนทั้งกายและใจ โดยเฉพาะ 3 เรื่องสำคัญในการสร้างคุณภาพเด็กไทย คือ การดูแลพัฒนาการของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ให้สมวัย มีการตรวจวัดไอคิวและอีคิวเด็กนักเรียนเพื่อให้เด็กมีน้ำหนัก ส่วนสูงและมีสมองที่มีคุณภาพซึ่งมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ในอนาคต
ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินการตรวจพัฒนาเด็ก และไอคิว อีคิวนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในสุขศาลาพระราชทานที่ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และ เชียงราย ซึ่งเป็นชนเผ่าปกากะญอ ม้ง ลาหู่ ในปี 2560 พบว่าอยู่ระดับที่ต้องเร่งพัฒนา โดยพบเด็กสงสัยมีพัฒนาการล่าช้ากว่าเกณฑ์มาตรฐานมากกว่าพื้นทั่วไปถึง 5 เท่าตัว ส่วนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีไอคิวค่อนข้างมาทางต่ำ โดยเน้นการเร่งให้ความรู้พ่อแม่ ผู้ปกครองทั้งด้านการเลี้ยงดู กระตุ้นพัฒนาการเด็กอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการป้องกันการขาดสารอาหาร สารไอโอดีน และธาตุเหล็ก
สำหรับสุขศาลาพระราชทาน เป็นสถานพยาบาลขนาดเล็กที่จัดตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พัฒนามาจากห้องพยาบาลของโรงเรียน ตชด. ให้บริการด้านสุขภาพและการสาธารณสุขแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่พิเศษด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มดำเนินการตั้งแต่พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 17 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 40 หมู่บ้าน 14 อำเภอ ใน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี เพชรบุรี ยะลา นราธิวาส ให้บริการทั้งชาวไทยพุทธ มุสลิม ชาวเขา บุคคลไร้รัฐ รวมถึงชาวลาว ชาวเมียนมา เฉลี่ย 15,571 คนต่อปี