ก.แรงงาน หารือสมาคมและผู้ประกอบการประมง ปรับวิธีจ้างงานเป็นแบบจ่ายเงินเดือนขั้นต่ำ 12,000 บาท จ่ายผ่านธนาคาร มีประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสังคม จูงใจให้แรงงานไทยทำงานภาคประมง หลังใบอนุญาตทำงาน “ต่างด้าว” หมดอายุ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา
นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และ พม่า ในกิจการประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำได้หมดอายุในวันที่ 1 พ.ย. 2560 ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องจัดหาแรงงานมาทดแทน โดยกระทรวงแรงงานได้มีการหารือกับสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการประมง และผู้ที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงสภาพการจ้างและการทำงาน พร้อมจัดสวัสดิการทุกรูปแบบให้กับแรงงานในภาคประมง เพื่อจูงใจให้แรงงานไทยหันมาทำงานในกิจการประมงทะเล ซึ่งตกลงจะจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างเป็นรายเดือนขั้นต่ำเดือนละ 12,000 บาท จ่ายผ่านธนาคาร พร้อมกับจัดสวัสดิการด้านที่พัก อาหาร การรักษาพยาบาล ประกันสุขภาพ ประกันสังคม รวมทั้งประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุให้กับแรงงานภาคประมง สำหรับคนงานที่มีประสบการณ์ก็จะได้ค่าจ้างมากขึ้นตามข้อตกลงในแต่ละราย โดยจะต้องมีการทำสัญญาจ้างที่กำหนดอัตราค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับแรงงาน
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางการไทยจะไปเจรจาการนำเข้าแรงงานภาคประมงกับทางการพม่า แบบรัฐต่อรัฐ (GtoG) ซึ่งแรงงานต่างด้าวก็จะได้รับค่าจ้างและสวัสดิการเช่นเดียวกันกับแรงงานไทยด้วย และขอเชิญชวนแรงงานไทยมาทำประมง เพราะได้มีการปรับสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม รวมทั้งสวัสดิการต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้แรงงานไทยมีรายได้ที่ดีขึ้น มีความมั่นคงในชีวิตการทำงาน และไม่ต้องใช้ชีวิตบนท้องทะเลในต่างแดน หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อรายละเอียดหรือสอบถามได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694