xs
xsm
sm
md
lg

ฝังยาคุมกึ่งถาวรวัยรุ่นอายุ 10-19 ปี ฟรี หวังสกัดท้องไม่พร้อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
วัยรุ่นอายุ 10 - 19 ปี ฝังยาคุมกำเนิดกึ่งถาวรได้ฟรี หวังสกัดท้องไม่พร้อม ตั้งครรภ์ซ้ำ ชี้ ดีกว่ากินยาคุมที่อาจหลงลืมได้ เผยวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์แล้วใช้บริการฝังยาคุมกึ่งถาวรแล้ว 70%

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและปัญหาการคลอดซ้ำในวัยรุ่น ยังเป็นเรื่องที่น่าห่วง การคุมกำเนิดจึงจำเป็นสำหรับวัยเจริญพันธุ์ในระยะที่ไม่พร้อม ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีบริบูรณ์ จนถึงก่อน 20 ปีบริบูรณ์ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาดังกล่าว กรมอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดทำแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเพื่อให้วัยรุ่นเข้าถึงบริการคุมกำเนิดชนิดกึ่งถาวร โดยวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ สามารถขอรับบริการคุมกำเนิดโดยการใช้ยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัย ซึ่งเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงได้ฟรี ณ สถานบริการที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ

“ยาคุมกำเนิดชนิดกึ่งถาวร หรือชนิดฝังใต้ผิวหนัง จัดเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมาก มากกว่าการกินยาคุมกำเนิด เพราะการกินยาอาจจะหลงลืมได้ ซึ่งโครงการฝังยาคุมกำเนิดในกลุ่ยวัยรุ่นนั้นดำเนินการมาได้ 3 ปีแล้ว มีวัยรุ่นที่ผ่านการตั้งครรภ์มาแล้วมารับบริการประมาณ 70% ซึ่งเป้าหมายอยากให้เข้ามาได้ 100% เพื่อลดปัญหาวัยรุ่นที่มีการตั้งครรภ์ซ้ำ ซึ่งแต่ละปีพบประมาณ 16% โดยสิ่งที่จะทำให้เขายอมรับบริการตรงนี้ คือ เรื่องของการสื่อสารจากบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำให้วัยรุ่นได้รู้ เข้าใจ และรับบริการ ณ ขณะนั้นเลย ไม่ใช่กลับไปคิดต่อที่บ้านซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะไม่กลับเข้ามารับบริการ” นพ.วชิระ กล่าว

นพ.วชิระ กล่าวว่า นอกจากนี้ ปัจจุบันได้มีการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ด้วยมาตรการทางกฎหมายอีกทางหนึ่งด้วย ได้แก่ พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งจะส่งผลเด็กและเยาวชนจะได้รับสิทธิประโยชน์ 5 เรื่องที่สำคัญ คือ 1. สถานศึกษาต้องจัดให้มีการสอนเพศวิถีศึกษาอย่างเหมาะสม จัดหาและพัฒนาผู้สอนเพศวิถีศึกษา การให้คำปรึกษา ช่วยเหลือและคุ้มครองวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ให้ได้รับการศึกษาต่ออย่างเหมาะสม รวมทั้งส่งต่อให้ได้รับสวัสดิการสังคม 2. สถานบริการต้องให้ข้อมูลความรู้และจัดบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ รวมทั้งส่งต่อให้ได้รับสวัสดิการสังคม 3. สถานประกอบกิจการต้องให้ข้อมูลความรู้และส่งเสริมให้เข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ รวมทั้งส่งต่อให้ได้รับสวัสดิการสังคม 4. การจัดสวัสดิการสังคมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และ 5. ให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อคุ้มครองสิทธิของวัยรุ่น
กำลังโหลดความคิดเห็น