สธ. เผยผลตรวจ “แคปซูลสมุนไพร” ช่วยผู้ป่วยมะเร็งปราจีนบุรี เบื้องต้นยังไม่พบสิ่งปนเปื้อน - จุลินทรีย์ แต่ยังต้องตรวจหาสารสำคัญ ขออย่าหยุดรักษายาแผนปัจจุบัน ด้านกรมแพทย์แผนไทยฯ ชี้ สมุนไพรช่วยมะเร็งมี 2 แบบ ทั้งเสริมสุขภาพป้องกันอาการข้างเคียงรักษาแผนปัจจุบัน และออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็ง เผย อยู่ระหว่างศึกษาผลยาตำรับเบญจอำมฤตย์
ความคืบหน้ากรณีการแจกสมุนไพรช่วยผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรี ได้เข้าตรวจสอบตัวแคปซูลดังกล่าว โดยบ้านที่ผลิตและแจกแคปซูล ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้อ้างการรักษา และไม่ได้ผลิตเป็นโรงงานขนาดใหญ่
วันนี้ (4 ต.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับข้อมูลจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปราจีนบุรี ว่า แคปซูลสมุนไพรที่ส่งตรวจศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรี เบื้องต้นไม่พบสิ่งปนเปื้อนหรือจุลินทรีย์ใดๆ แต่สิ่งสำคัญต้องตรวจหาสารในตัวแคปซูลว่าเป็นสารอะไรด้วย และมีสเตียรอยด์หรือไม่ ซึ่งขณะนี้เป็นหน้าที่ของทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งผลการพิสูจน์สารอื่นๆ จำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพัก อย่างไรก็ตาม คงทำได้เพียงเตือนให้ประชาชนระวังในการใช้ และขอย้ำเหมือนเดิมว่า อย่าหยุดการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะอย่าลืมว่ามะเร็งมีหลายชนิด การรักษามีความแตกต่างกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีผู้ป่วยมะเร็งมองว่าการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันไม่ดีขึ้น และไปหาหมอบางรายก็ไม่ระบุว่าป่วยด้วยโรคอะไร นพ.โอภาส กล่าวว่า ต้องมีการสื่อสารให้ความรู้ประชาชนเพิ่มเติม รวมทั้งต้องสื่อสารกับบุคลากรในเรื่องการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ป่วย เพราะหลายเรื่องก็มาจากการสื่อสารที่อาจคลาดเคลื่อนได้
นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในเรื่องของการผลิตนั้น ต้องไปดูรายละเอียด เพราะหากเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายก็ต้องแจ้งกับทาง อย. โดยผ่านทาง สสจ.ปราจีนบุรี ซึ่งจะทราบข้อมูลต่างๆ
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า โรคมะเร็งถือเป็นปัญหาสากล เป็นโรคที่คนไทยป่วยกันเยอะ ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันเองก็ต้องยอมรับว่ายังไม่ถึงที่สุด ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งที่แสวงหาการรักษาอื่นเพิ่มเติมมาดูแลสุขภาพด้วยความหวังว่าจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น อยู่ในได้นานขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าความหวังก็คือสิ่งที่จะทำให้เขามีความสุข ซึ่งในตำราการแพทย์แผนไทยก็มีสมุนไพรหลายตัวที่มีสรรพคุณที่สามารถป้องกัน รักษาเซลล์มะเร็งได้ โดยหลักการจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เป็นสมุนไพรเป็นยาเสริมการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน เช่น ช่วยเรื่องของการดูแลสุขภาพต่างๆ หลังการทำคีโมหรือการทำฉายแสง เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เป็นต้น
นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า อีกประเภท คือ สมุนไพรที่ออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีการศึกษาวิจัยกันเยอะ เช่น สูตรตำรับเบญจอำมฤตย์ ซึ่งอยู่ระหว่างทำการศึกษาวิจัยในมนุษย์ ในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งตับในระดับคลินิก เพื่อยืนยันผลของยาเบญจอำมฤตย์ตามมาตรฐานสากล โดยทำใน รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ซึ่งกำลังเปิดรับอาสาสมัครที่ป่วยเป็นมะเร็งตับตั้งแต่วันนี้ จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2560 ไม่จำกัดจำนวน โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นผู้ป่วยที่ได้รับวินิจฉัยแล้วว่าป่วยเป็นมะเร็งตับ ได้รับการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งการวิจัยจะมีการใช้ยาตำรับเบญจอัมฤทธิ์ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน คาดว่าน่าจะได้ผลการศึกษาในอีกประมาณ 2 ปี