สบส. แนะวิธีเลือกร้านนวดให้ตรงความต้องการ ชี้ นวดเพื่อรักษาให้ไปสถานพยาบาลแพทย์แผนไทย ผู้นวดต้องมีใบอนุญาตเวชกรรมไทย หากนวดผ่อนคลายให้ไปร้านสปา ผู้บริการต้องผ่านหลักสูตรตาม สบส.กำหนด ย้ำทั้งหมดต้องประเมินสภาพร่างกายก่อนนวดทุกครั้ง
นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การนวดมีทั้งการนวดเพื่อบำบัดรักษาอาการเจ็บปวดของร่างกาย และการนวดเพื่อผ่อนคลาย หรือส่งเสริมสุขภาพ ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนเลือกรับบริการได้ตรงกับความต้องการ และตอบโจทย์สุขภาพได้มากที่สุด สบส. จึงขอแนะนำให้ประชาชนทุกคนประเมินร่างกายตนเองเบื้องต้นก่อนรับบริการนวดทุกครั้ง หากพบว่าร่างกายของตนมีอาการเจ็บ ปวด หรือมีความผิดปกติ และต้องการนวดเพื่อรักษา ฟื้นฟูสุขภาพ อย่างการนวดจับเส้น ขอให้เลือกรับบริการจากสถานพยาบาลการแพทย์แผนไทย ซึ่งผู้ให้บริการนวดจะต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้านเวชกรรมไทย, ด้านนวดไทย หรือด้านการแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากสภาการแพทย์แผนไทยเท่านั้น
“ประชาชนสามารถสังเกตหลักฐานสถานพยาบาล 3 ประการ เพื่อความมั่นใจว่า สถานพยาบาลดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถบรรเทา บำบัด รักษาอาการของโรคที่ตนเป็นอยู่ได้ ดังนี้ 1. มีการแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ให้เห็นได้ชัดเจนที่ด้านหน้าสถานพยาบาล 2. มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลให้เห็นชัดเจนที่จุดบริการ และ 3. มีการแสดงป้ายชื่อ-สกุล รูปถ่าย พร้อมกับเลขที่ใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพของแพทย์ติดหน้าห้องตรวจ ซึ่งต้องตรงกับตัวจริงที่ให้บริการขณะนั้น” รองอธิบดี สบส. กล่าว
นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวว่า แต่หากต้องการนวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพ หรือ ผ่อนคลาย ให้เลือกรับบริการจากสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภท สปา นวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการจาก สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งผู้ให้บริการนวดจะต้องได้รับประกาศนียบัตรตามหลักสูตรที่ สบส. ให้การรับรอง และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพถูกต้องตามกฎหมาย และสังเกตหลักฐาน 3 ประการ ได้แก่ 1. มีการแสดงสติกเกอร์มาตรฐาน สบส. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามประเภทกิจการ ให้เห็นชัดเจนที่จุดบริการ 2. มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 3. มีการแสดงใบอนุญาตผู้ดำเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (กรณี สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทสปา) และหากประชาชนมีข้อสงสัยว่าผู้ให้บริการมีคุณสมบัติที่จะให้บริการนวดครบถ้วนหรือไม่ สามารถขอตรวจสอบทะเบียนผู้ให้บริการจากเจ้าของสถานประกอบการฯ หรือผู้ดำเนินการได้
“เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขอเน้นย้ำให้สถานพยาบาล หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกแห่ง ตรวจประเมินสภาพร่างกายผู้มารับการนวดทุกครั้ง ทั้งวัดความดันโลหิต ซักประวัติอาการป่วย เพื่อประเมินแนวทางการรักษาหรือการนวดเพื่อความผ่อนคลายได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะบุคคลที่มีอาการดังต่อไปนี้ คือ มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส มีอาการโรคติดเชื้อเฉียบพลัน มีการอักเสบจากการติดเชื้อ กระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวานที่ยังควบคุมอาการให้เป็นปกติไม่ได้ มีโรคผิวหนังมีแผลเปิดเรื้อรัง โรคติดต่อระยะแพร่เชื้อ โรคมะเร็ง แผลหลังผ่าตัดยังไม่หายสนิท หลอดเลือดดำอักเสบ และกระดูกพรุนรุนแรง ห้ามให้บริการนวดแผนไทยเด็ดขาดเพราะอาจเกิดอันตรายได้” นพ.ภานุวัฒน์ กล่าว