xs
xsm
sm
md
lg

ทดสอบระบบไฟส่องสว่างพระเมรุมาศ ครั้งแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ธนะศักดิ์” เผย ภาพรวมพระเมรุมาศคืบหน้าร้อยละ 98.6 พร้อมทดสอบระบบไฟส่องสว่างพระเมรุมาศครั้งแรก ด้าน 3 หน่วยงานเตรียมพร้อมพระราชพิธียกฉัตร

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เวลา 17.00 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบ ระบบไฟส่องสว่างพระเมรุมาศ โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมรายงานความคืบหน้า โดยพล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า การก่อสร้างพระเมรุมาศเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ และได้เข้ามาทดสอบระบบไฟเป็นครั้งแรก และซักซ้อมกรณีไฟดับเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในวันพระราชพิธี ส่วนรอบพื้นลานพระราชพิธีได้บดอัดพื้นที่เพื่อให้ได้ระดับตามกำหนดสามารถระบายน้ำได้ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ยืนยันว่า ฝนที่ตกขณะนี้ไม่กระทบกับการก่อสร้างและการทำงานแต่อย่างใดๆ ล่าสุด ได้มีการทดลองจัดวางไม้ดัดและพันธุ์ไม้มาประดับสระอโนดาตตามตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อเสริมให้พื้นที่มีความงดงาม ส่วนการเตรียมการซักซ้อมยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรในวันที่ 12 และ 17 ต.ค. นั้น จะมีการทดสอบและจัดระบบความปลอดภัยโดยเน้นความมั่นคงแข็งแรงเพราะการยกฉัตรครั้งนี้ ถือว่ามีขนาดใหญ่ถึง 5.10 เมตร และยังไม่เคยมีการยกฉัตรขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากขนาดนี้มาก่อน ทั้งนี้ จะทำการรื้อนั่งร้านหอเปลื้อง และซ่างภายในวัน 3 วัน ยังคงนั่งร้านบุษบกประธานเพื่อใช้สำหรับการเตรียมพร้อมสำหรับพระราชพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรในวันที่ 18 ต.ค. หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีก็จะทำการรื้อนั่งร้านให้แล้วเสร็จภายใน 1 - 2 วัน

“ภาพรวมการก่อสร้างพระเมรุมาศ คืบหน้าร้อยละ 98.6 ทุกคนมีต่างภาคภูมิใจ ตลอด 10 เดือนนับตั้งแต่เป็นดินธรรมดาจนกระทั่งวันนี้ ถ้าไม่ได้ความทุ่มเทและความเสียสละ ความรักสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่ามาร่วมกันก็จะไม่เสร็จสมบูรณ์เช่นนี้ ถือเป็นการทุ่มเทถวายให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 และราชวงศ์อันเป็นที่รัก ขณะนี้เร่งเก็บงานเหลือทั้งการตกแต่งรายละเอียดพระจิตกาธาน และงานติดตั้งพระวิสูตร หรือผ้าม่าน ส่วนพระที่นั่งทรงธรรมและอาคารประกอบทั้งภายในและภายนอกมณฑลพิธีอยู่ระหว่างการตกแต่งรายละเอียดขั้นสุดท้าย บริเวณแปลงนาเสร็จแล้ว แต่จะมีการตกแต่งรั้วไม้ไผ่เพื่อปลูกผักสวนครัวเพิ่มเติม และในมณฑลพิธีอยู่ระหว่างตกแต่งด้วยไม้กระถาง และไม้ดอกไม้ประดับ ส่วนงานศิลปกรรมประกอบพระเมรุมาศ ได้แก่ งานประติมากรรมเทวดา เทพนม เทพชุมนุม ครุฑ คชสีห์ ราชสีห์ สัตว์หิมพานต์ ได้ติดตั้งบนพระเมรุมาศแล้วทั้งหมด ส่วนจิตรกรรมฉากบังเพลิง และจิตรกรรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้นำขึ้นติดตั้งตามตำแหน่งแล้ว” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับงานประณีตศิลป์ในพระราชพิธี ได้แก่ งานจัดสร้างพระโกศทรงพระบรมอัฐิ คืบหน้ารวมร้อยละ 89 อยู่ระหว่างการลงยาสี และประดับอัญมณี งานออกแบบและจัดทำเครื่องสังเค็ด คืบหน้ารวมร้อยละ 81 นอกจากนี้ ราชรถและพระยานมาศ พร้อมสำหรับการเคลื่อนออก เพื่อร่วมการฝึกซ้อมริ้วขบวนในสถานที่จริง ครั้งแรกในวันที่ 7 ต.ค. นี้ โดยจะมีการอัญเชิญราชรถมาร่วมซักซ้อมตั้งแต่เวลา 04.00 น. โดยจะมีการกำหนดตำแหน่งซักซ้อมการเทียบเกยสำหรับเชิญพระโกศพระบรมศพ เมื่อการซักซ้อมจนเป็นที่น่าพอใจไม่มีข้อบกพร่องก็จะมีการเชิญราชรถกลับไปยังโรงราชรถ ทั้งนี้หากในวันพระราชพิธีจริงมีฝนตกหนักนั้น มั่นใจว่า ความมั่นคงของพระเมรุมาศ อาคารต่างๆ รวมถึงการจัดระบบไฟฟ้า และการระบายน้ำของถนนสามารถรองรับได้ไม่เกิดน้ำท่วมขังแน่นอน ซึ่งมีสถาปนิกตรวจสอบตลอดเวลา หากพบว่ามีแอ่งน้ำก็จะปรับพื้นให้สามารถระบายน้ำได้ ขณะนี้ได้ประสานสำนักพระราชวังให้เข้ามาจัดเก้าอี้และเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยพระที่นั่งทรงธรรมจะมีพระสงฆ์จำนวน 89 รูป ร่วมในพระราชพิธีครั้งสำคัญ

ในวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมการพระราชพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรพระเมรุมาศว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ในวันที่ 18 ต.ค. โดยถือฤกษ์มงคลตั้งแต่เวลา 17.19 - 21.30 น. ซึ่งได้มีการเตรียมการรับเสด็จฯ ตามหมายกำหนดการ โดยยึดรูปแบบปฏิบัติเมื่อครั้งพระเมรุมาศสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระเมรุสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งทางสำนักพระราชวัง ได้รับไปดูรายละเอียดหมายกำหนดการของพระราชพิธีดังกล่าว ส่วนการเชิญผู้เข้าร่วมพระราชพิธีจำนวน 17 กลุ่มบุคคล ประมาณ 200 คน อาทิ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) อดีตนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงต่างๆ มอบหมายให้3 หน่วยงานดูแล ได้แก่ สำนักพระราชวัง สำนักนายกรัฐมนตรี และกรมศิลปากร

นายวีระ กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดเตรียมพระราชพิธี ได้มอบหมายให้กรมศิลปากร จัดเครื่องประโคม ส่วนแท่นพระราชอาสน์ การเตรียมพระแท่นสายสูตร หรือเส้นด้ายที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจับโยงไปเพื่อยกพระนพปฏลมหาเศวตฉัตร มอบหมายสำนักพระราชวังดูแล ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี จะรอเฝ้ารับเสด็จฯบริเวณชั้นลดของพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามรูปแบบพระเมรุมาศครั้งก่อนๆ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้กำหนดเรื่องการถ่ายทอดสดการติดตั้งระบบเสียง การกำหนดเส้นทางรถยนต์ การรักษาความปลอดภัย การดูแลสื่อมวลชน โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำไปปฏิบัติด้วย




























กำลังโหลดความคิดเห็น