กทม. ปรับพื้นผิวถนนรอบพระบรมมหาราชวัง - สนามหลวง ทั้ง 13 จุด ครบ 100% เตรียมรองรับขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พร้อมติดตั้งพัดลมอำนวยความสะดวก ปชช. รอกราบถวายบังคมพระบรมศพ และ CCTV เชิญชวนจิตอาสาลงทะเบียนสนามเสือป่า 2 วันสุดท้าย ย้ำเข้มรักษาความปลอดภัยรอบสนามหลวง ขอ ปชช. ร่วมส่งดอกดาวเรืองประดับพื้นที่รอบพระเมรุมาศ
วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.45 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากที่รื้อย้ายเต็นท์พักคอยสำหรับบริการประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร มาตั้งที่บริเวณถนนราชดำเนินใน ตั้งแต่พระแม่ธรณีบีบมวยผม จนถึงหน้าศาลหลักเมือง และจากบริเวณหน้ากระทรวงกลาโหม จนถึงกรมการรักษาดินแดน รวมทั้งบนถนนหน้าพระลาน เริ่มตั้งแต่กำแพงวังหน้าศาลหลักเมือง ถึงบริเวณประตูวิเศษไชยศรี รวมทั้งสิ้น 180 หลัง ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนที่ต้องอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงสั่งการให้ติดตั้งพัดลมในเต็นท์พักคอยทุกหลัง รวมจำนวนกว่า 200 ตัว โดยระดมกำลังติดตั้งเมื่อคืนวันที่ 27 ก.ย. 2560 เสร็จไปแล้ว จำนวน 52 ตัว จะติดตั้งเสร็จเพิ่มในวันนี้อีก 38 ตัว รวมเป็น 90 ตัว ในเต็นท์พักคอยบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม - ศาลหลักเมือง ส่วนเต็นท์พักคอยบริเวณหน้ากระทรวงกลาโหมถึงแยก รด. และบริเวณถนนหน้าพระลาน อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องระบบไฟ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะเร่งดำเนินการติดตั้งพัดลมเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จครบทุกเต็นท์ภายใน 2 วัน
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สืบเนื่องมาจากการที่รอบบริเวณในท้องสนามหลวงที่ตั้งพระเมรุมาศ ซึ่งจะใช้ในงานพระราชพิธีติดเต็นท์พักคอยที่อยู่ด้านใน จึงทำให้พี่น้องประชาชนไม่สะดวกในที่มารอเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ ทางกรุงเทพมหานครจึงได้จัดเต็นท์พักคอย ทางด้านขวามือของผมตั้งแต่หน้าจนกระทั้งถึงตรงนี้ทั้ง 2 ฝั่ง ถนนราชดำเนินฝั่งที่ติดสนามหลวง ฝั่งที่หน้าศาลฎีกา อีกฝั่งซ้ายมือของผมตั้งแต่หน้าศาลหลักเมืองไปจนถึงวงเวียน รด. และสร้างเต็นท์พักคอย เมื่อวานผมได้เดินตรวจดูพบว่าพี่น้องประชาชนร้อนมาก เมื่อคืนก็สั่งให้เอาพัดลมมาติดตั้ง ซึ่งเมื่อคืนติดตั้งไปแล้วฝั่งสนามหลวงด้านในติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็จะเหลือฝั่งด้านศาลฎีกา แล้วก็ถนนหน้าพระลาน จนถึงวงเวียน รด. ก็จะมีการเริ่มติดตั้งให้เสร็จภายในคืนนี้ เพราะเข้าไปนั่งมันร้อนจริงๆ เห็นพี่น้องประชาชน เพื่อความอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนด้วย
นอกจากนี้ ยังดำเนินการติดตั้งระบบสัญญาณภาพระบบกล้อง CCTV ในบริเวณ แยกถนนมหาราชตัดถนนท้ายวัง แยกถนนท้ายวังตัดถนนสนามไชย ทางเข้าสนามหลวง ถนนเส้นกลางสนามหลวง และบริเวณรอบพระเมรุ เพื่อส่งสัญญาณมายังกองอำนวยการคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและดำเนินการฯ บริเวณที่ตั้งของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (สวนเจ้าเชตุ) และกระทรวงกลาโหม และได้ดำเนินการติดตั้งกล้องเพิ่มเติมบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง จำนวน 44 กล้อง และบริเวณโดยรอบสนามหลวงรวมทั้งบริเวณใกล้เคียง จำนวน 233 กล้อง รวม 277 กล้อง โดยจะเชื่อมสัญญาณเข้าศูนย์ควบคุมที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (สวนเจ้าเชตุ) และกระทรวงกลาโหม กำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 30 ก.ย. 60
“อีกส่วนหนึ่งกรุงเทพมหานครมาตรวจงาน ซึ่งทางสำนักพระราชวังได้ให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องการปรับพื้นผิวการจราจร ซึ่งขบวนราชรถขบวนพระบรมราชอิสสริยยศ จะต้องผ่าน 13 จุด ที่สำนักงานโยธาของกรุงเทพมหานคร จะต้องปรับพื้นผิวบริเวณรอบๆ พระบรมมหาราชวัง และบริเวณสนามหลวง ตลอดในเกาะกลางสนามหลวงต้องยกแท่นขึ้นมา ส่วนฝั่งทิศเหนือซึ่งจะเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ ที่ตั้งโรงละคร โรงโขนต่างๆ จึงต้องปรับพื้นที่ให้หมด ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้ไปทั้งหมด 13 จุด ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ก็มีการตรวจความบกพร่องกล้อง CCTV รอบบริเวณท้องสนามหลวง และรอบพระบรมมหาราชวัง ได้มีการติดเพิ่มขึ้นมา 277 ตัว โดยกล้องจะเชื่อมเข้าไปที่กระทรวงกลาโหม รวมถึงกรมรักษาดินแดน และเชื่อมไปที่กรุงเทพมหานคร เพื่อดูแลว่าจุดไหนมีความบกพร่องอย่างไร กรุงเทพมหานครจะได้มาปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเตรียมการทั้งหลายทั้งปวงต้องเสร็จภายในวันที่ 10 ต.ค. เพื่อสมบูรณ์แบบ ในขณะเดียวกันการเคลื่อนพระบรมศพโดยราชรถต่างๆ จนตลอดพิธีเสร็จสิ้นถึงวันที่ 29 ต.ค. ด้วยความห่วงใยและดูแลตรงนี้” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า เชิญชวนมาเป็นจิตอาสา ผู้ที่สนใจลงทะเบียนเป็นจิตอาสาได้ที่สนามเสือป่า และทุกสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร ที้ง 50 เขต และจะได้รับของพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ หมวก ผ้าพันคอ เสื้อ ซึ่งต้องลงทะเบียนโดยนำบัตรประชาชนไปด้วย ส่วนเส้นทางการเดินขบวนคงไม่มีอะไรเพิ่มเติม เพราะเราได้ประสานกับกองพลพัฒนา ของกองทัพบกแล้วว่าให้เขามาทดลอง ทดสอบความอ่อนตัวของพื้นจะทำให้ขบวนพระบรมราชอิสสริยยศไปได้อย่างสะดวกรึไม่ ซึ่งสามารถผ่านไปได้ดี และเราได้ให้กองพลพัฒนากองทัพบกมาตรวจสอบดูเรียบร้อยแล้ว และได้ให้ประสานกับสำนักงานโยธาของกรุงเทพมหานครโดยตลอด มีจุดบกพร่องเราก็จะต่อเติมแก้ไข ซึ่งตอนนี้สมบูรณ์แล้ว และตัวผมเอง คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครก็มีการมาช่วยกัยดูทุกวัน ส่วนเรื่องดอกไม้จันทน์เราได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร สถานที่จัดเตรียมดอกไม้จันทน์จะมีข้าราชการของกรุงเทพมหานครแต่งชุดขาว ติดปลอกแขนไว้ทุกข์ จุดละ 9 คน สำหรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพมหานคร ทางกรุงเทพมหานครขณะนี้เตรียมดอกไม้จันทน์ไว้ 8 ล้านดอก ส่วนเรื่องความพร้อมเราไม่กังวล
การรับสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 วันจะปิดรับสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจแล้ว กรุงเทพมหานคร จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงทะเบียนสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจ เพื่อรวมพลังความรัก ความสามัคคี แสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยสามารถเลือกประเภทของงานตามความสามารถและความสมัครใจได้ 8 ด้าน ได้แก่ งานดอกไม้จันทน์ งานประชาสัมพันธ์ งานโยธา งานขนส่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน งานบริการประชาชน งานแพทย์ งานรักษาความปลอดภัย และ งานจราจร ทั้งนี้ ผู้ที่มีความประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่ ณ พระลานพระราชวังดุสิต หรือในพื้นที่ใกล้เคียง สามารถไปลงทะเบียนสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจได้ที่สนามเสือป่า ส่วนผู้ที่มีความประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานที่จัดงานในพื้นที่เขตใด ลงทะเบียนสมัครได้ที่สำนักงานเขตนั้น โดยผู้สมัครจิตอาสาเฉพาะกิจจะได้รับสิ่งของพระราชทาน ประกอบด้วย บัตรประจำตัวจิตอาสาเฉพาะกิจ เสื้อ หมวก ผ้าพันคอ และปลอกแขน
“เรื่องการรักษาความปลอดภัยรอบสนามหลวง เรามีการประสานกันหลายหน่วย หน่วยการมั่นคงของกระทรวงกลาโหม กระทรวงกองทัพบก ตำรวจ เทศกิจกรุงเทพมหานคร รวมถึงตำรวจกองปราบปราม ตำรวจสืบสวนของกองตำรวจนครบาล เราประสานกันทุกหน่วย แบ่งงานกันทำ การรักษาความปลอดภัยจึงไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งที่น่าห่วงคงเป็นเรื่องที่พัก เรื่องห้องน้ำ แต่เราจะแจ้งระเอียดอีกครั้งหนึ่งว่า วัด หรือโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่เราสามารถเปิดให้พักค้างคืนได้ รวมถึงอาหารว่าเราจะกระจายไปยังจุดไหนบ้าง เพราะผมคาดว่าพี่น้องประชาชนจะหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และจะอยู่กันกระจายโดยทั่วไป ส่วนทีมแพทย์มีเพียงพอทั้งของโรงพยาบาลและศูนย์ต่างๆ และจากภาคเอกชนประมาณ 200 - 300 คัน ที่รองรับประชาชน” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันปลูกต้นดาวเรืองตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ตามโครงการ “ปลูกดาวเรืองด้วยใจถวายพ่อ” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความอาลัย และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ขณะนี้ต้นดาวเรืองได้เริ่มผลิดอกพร้อมสำหรับประดับตกแต่งเมืองในช่วงพระราชพิธีฯ แล้ว กทม.จึงจัดกิจกรรม “น้อมถวายดาวเรือง เพื่อพ่อหลวงของเรา” โดยเชิญชวนประชาชนมอบต้นดาวเรืองที่ปลูกไว้ให้กรุงเทพมหานครนำไปตั้งประดับบริเวณโดยรอบสนามหลวง ถนนสายหลัก สายรอง สวนหย่อม สวนสาธารณะ และสถานที่สำคัญต่างๆ ในช่วงงานพระราชพิธีเพื่อร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งสวนสาธารณะทุกแห่งของกรุงเทพมหานคร จะเปิดรับต้นดาวเรืองจากประชาชนตั้งแต่วันที่ 9 - 15 ต.ค. 60 และจะจัดทำป้ายชื่อของผู้ร่วมถวายผูกติดกับต้นดาวเรืองไว้ ก่อนที่จะนำไปประดับตกแต่งให้ทั่วทั้งเมืองมีบรรยากาศของการแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัย ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังเชิญชวนให้ประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานราชการ ได้มีส่วนร่วมประดับตกแต่งเมืองในช่วงพระราชพิธีฯ ด้วยการร่วมกันปลูกดอกดาวเรือง รวมทั้งดอกไม้ชนิดอื่นๆ ที่มีสีเหลืองอันเป็นสีประจำวันคล้ายวันพระราชสมภพ บริเวณหน้าบ้านเรือน บริษัท ห้างร้าน และสถานที่สำคัญต่างๆ ให้ออกดอกบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 60 เป็นต้นไป ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อม โดยสวนสาธารณะต่างๆ และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ของกรุงเทพมหานคร ได้เพาะดอกดาวเรืองและดอกไม้สีเหลืองชนิดอื่นๆ อาทิ ทานตะวัน ดาวกระจาย กระดุมทอง และ ทองอุไร เตรียมไว้แล้วประมาณ 2 ล้านต้น เพื่อประดับตกแต่งสถานที่สำคัญในช่วงงานพระราชพิธี
