“บัวบก” ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มแก้อาการร้อนใน ย้ำ ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ ฟื้นฟูความจำในผู้สูงอายุ ชี้ เสริมการทำงานของกาบา สารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลจิตใจ
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ปัจจุบันภาวะสมองเสื่อม หรือ โรคอัลไซเมอร์ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยสูงอายุและมีแนวโน้มสูงขึ้น ปัญหาที่พบ เช่น มีปัญหาด้านการใช้ภาษา เลือกใช้คำพูดไม่ค่อยถูก สับสนเรื่องทิศทาง ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมและอารมณ์ได้ สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการป้องกันโรค คือ บัวบก สมุนไพรในกลุ่มโปรดักส์ แชมเปี้ยน เป็นสมุนไพรที่มีอยู่ทุกที่ทั่วประเทศไทยที่สำคัญหาง่าย ใช้คล่อง ปลอดภัย ใช้ได้ทั้งต้นและใบ มีรสขม สามารถนำมารับประทานเป็นอาหาร ทำเป็นเครื่องดื่ม จากการศึกษาวิจัยพบว่า บัวบกมีฤทธิ์รักษาแผลที่ผิวหนัง รักษาแผลในทางเดินอาหาร รักษาความผิดปกติของหลอดเลือดดำ รักษาแผลในปาก และที่สำคัญ คือ บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ และช่วยฟื้นฟูความจำ และมีผลกับการความจำและเรียนรู้ในผู้สูงอายุ
นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า สำหรับสรรพคุณที่ให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษ คือ “บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์” เนื่องจากในบัวบกมีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยทำให้เพิ่มความจำดีขึ้นและทำให้มีปฏิภาณไหวพริบเพิ่มมากขึ้น ใบบัวบกยังช่วยเสริมการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ลดความกระวนกระวาย ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยแค่เพียงรับประทานเป็นประจำก่อนนอน ก็จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ปัจจุบันนี้มีการผลิตสารสกัดจากบัวบกเป็นยาบำรุงสมอง สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โปรดสังเกตมาตรฐานและเลขจดแจ้งขออนุญาตจาก อย.
“วิธีรับประทานน้ำใบบัวบก บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ ให้นำใบบัวบกทั้งต้น มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นท่อนๆ ประมาณ 2 - 3 ท่อน นำมาปั่นรวมกับน้ำเปล่า โดยใส่น้ำให้ท่วมใบบัวบก กรองเอาแต่น้ำ และสามารถปรุงรสด้วยน้ำผึ้งตามใจชอบ ให้ดื่มครั้งละ 120 - 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารและไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th และแอปพลิเคชันสมุนไพรไทย ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนหันมารับประทานผักเป็นยา ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ” นพ.ปราโมทย์ กล่าว