จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เรียนจบทางด้านดนตรีและทำงานเกี่ยวกับทางด้านดนตรี พบว่าคนส่วนใหญ่ยังมีความคิดเห็นว่าการเรียนดนตรีสำหรับเด็กเป็นเพียงแค่วิชาเสริมเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วในปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาในระดับอนุบาลของหลายประเทศกลับมุ่งเน้นให้การเรียนดนตรีเป็นวิชาหลักที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็กๆโดยให้ความสำคัญของการเรียนดนตรีถึง 70-80% ของหลักสูตรทั้งหมด นอกจากจะมีวิชาดนตรีบรรจุอยู่ในหลักสูตรแล้วยังมีการนำดนตรีมาใช้เป็นสื่อในการเสริมสร้างพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในด้านต่างๆของเด็กอย่างได้ผลดีอีกด้วย ดังนี้
1. ดนตรีกับการเรียนรู้ภาษา
ดนตรีกับเรื่องของภาษานั้นมีองค์ประกอบที่เหมือนกัน คือ เกิดจากการนำคำที่มีระดับเสียงสูงๆ ต่ำๆ มาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน ดังนั้น การให้เด็กๆ ร้องเพลงก็คือการที่เรากำลังสอนเรื่องภาษาให้แก่เด็กโดยตรงนั่นเอง เพราะการที่เด็กๆ ร้องเพลงเด็กก็จะได้เรียนรู้ในเรื่องของการออกเสียงควบกล้ำ การเปล่งเสียง การเข้าใจความหมายของคำ การเรียนรู้คำศัพท์ ทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆ ผ่านทางบทเพลงนั้นๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าร่วมการเป็น “ประชาคมอาเซียน"ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมพร้อมให้เด็กๆ มีความเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกในประกาศประชาคมอาเซียน ซึ่งการสอนให้เด็กๆ มีความเข้าใจถึงเรื่องเอกลักษณ์วัฒนธรรมและดนตรีของประเทศต่างๆ เหล่านี้สามารถสอนได้โดยผ่านทางบทเพลงที่มีเนื้อร้องของภาษานั้นๆ ได้ ตัวอย่างเช่น
เพลง “สวัสดีอาเซียน”
คำร้อง/ทำนอง ดร.แพง ชินพงศ์
สวัสดี ซัวซไดย สะบายดี ซาลามัต ดาตัง
ซินจ่าว หนีห่าว ซาลามัต เซียง
มิงกะลาบา กูมุสตา
ซึ่งเพลงนี้เป็นการสอนให้เด็กๆ สามารถจดจำและพูดคำว่าสวัสดีในภาษาต่างๆข องกลุ่มประเทศอาเซียนได้ง่ายๆ
2. ดนตรีกับการเรียนรู้คณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนามธรรมจึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก ดังนั้น การสอนให้เด็กเข้าใจคณิตศาสตร์โดยผ่านทางบทเพลงที่มีเนื้อร้องเกี่ยวกับเรื่องของการรู้ค่าของจำนวน การบวกและการลบ การนับ การจำแนกและเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ การสอนเรื่องรูปทรงเรขาคณิต มโนทัศน์ของตำแหน่ง โดยเป็นเพลงที่มีจังหวะและทำนองที่สนุกสนานให้เด็กๆ ได้เคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะเพลงจะช่วยกระตุ้นให้เด็กๆเกิดความสนใจและความเข้าใจในเรื่องของคณิตศาสตร์เพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่างของเพลงที่สอนเรื่องการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์
เพลง “แมลงปอ 5 ตัว”
คำร้อง/ทำนอง ดร.แพง ชินพงศ์
เจ้าแมลงปอบินมา 1 ตัว
บินแล้วก็หมุนหมุนไปรอบตัว
บินไปทางซ้าย บินไปทางขวา
บินไปข้างหลัง แล้วก็บินไปข้างหน้า
(เปลี่ยนจาก 1 ตัวเป็น 2, 3, 4, 5 ฯลฯ)
3. ดนตรีกับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
การเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์นั้นคล้ายกับการเรียนรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ เพราะว่ามีทักษะพื้นฐานที่เหมือนกันในเรื่องของการเปรียบเทียบจำแนกสิ่งต่างๆ การบอกความสัมพันธ์ของเหตุและผล เนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ที่เด็กๆ ควรรู้ก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็ก ซึ่งเราสามารถสอนให้เด็กรู้เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ได้โดยการให้เด็กๆ ฟังเสียงบรรเลงที่มีเสียงธรรมชาติประกอบ เช่นเสียงลม เสียงฝน เสียงทะเล นอกจากนี้การสอนวิทยาศาสตร์เด็กๆ ผ่านทางเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพืช สัตว์ ปรากฏการณ์ธรรมชาติจะทำให้เด็กๆ มีความสนใจและจดจำเนื้อหาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ได้มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างของเพลงที่สอนเรื่องการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์
เพลง “เพื่อนชื่อต้นไม้”
คำร้อง/ทำนอง ดร.แพง ชินพงศ์
ฉันเป็นต้นไม้ใหญ่ กิ่งก้านใบดูสวยงามตาบ้านของฉันคือป่า สัตว์นานาอาศัยพักพิงหน้าที่ของฉันนั้นคือ มีดอกผลที่เป็นอาหารให้เราทุกคนได้แบ่งปันกัน ช่วยฟอกอากาศให้โลกเรา ฉันคือต้นไม้เป็นเพื่อนที่ดีของเธอ
4. ดนตรีกับพลศึกษา
พลศึกษาเป็นเรื่องของการออกกำลังกาย การให้เด็กๆ ได้เดิน วิ่ง กระโดด เต้น รำ ตามจังหวะเนื้อร้องและทำนองดนตรีนอกจากจะเป็นการพัฒนาทางด้านร่างกายของเด็กโดยตรงแล้ว ยังช่วยพัฒนาทางด้านจิตใจและสมองของเด็กอีกด้วย อีกทั้งมีอีกงานวิจัยที่กล่าวตรงกันว่าการให้เด็กๆ ออกกำลังกายโดยมีการเปิดเพลงประกอบไปด้วยนั้นจะเป็นการกระตุ้นให้สมองของเด็กตื่นตัวพร้อมต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างของเพลงที่ใช้ประกอบกิจกรรมพลศึกษา
เพลง “โยกย้ายไปมา”
คำร้อง/ทำนอง ดร.แพง ชินพงศ์
ย่ำเท้าอยู่กับที่ ยกเข่าให้สูง
เหยียดสองแขนหมุนไปรอบตัว
กำมือแบมือสลับกัน
ส่ายสะโพกโยกย้ายไปมา โยกย้ายไปมา
นอกจากนี้ การเปิดเพลงบรรเลงที่มีจังหวะช้าๆ นุ่มนวลคลอเบาๆ ในขณะที่เด็กทำกิจกรรมศิลปะ จะช่วยเสริมศักยภาพในการสร้างสรรค์จินตนาการให้แก่เด็กได้เป็นอย่างดี
นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นได้ว่าดนตรีเป็นสื่อที่มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเด็กเป็นอย่างมาก เพราะสามารถนำไปบูรณาการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นในด้านภาษาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พลศึกษา ศิลปะ นอกจากนี้ดนตรียังเป็นสื่อที่สร้างสุขให้แก่คนทุกเพศทุกวัยอีกทั้งเป็นเพื่อนแก้เหงาที่ดีอีกด้วย