แรงงานลาวกลุ่มบัตรชมพู มายื่นต่ออายุทำงานในไทยน้อย เผย 16 วัน มาแค่ 1,449 ราย หวั่นมาช้าดำเนินการไม่ทันต้องส่งกลับประเทศ อดทำงานต่ออีก 2 ปี
นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีแรงงานสัญชาติลาวที่ถือบัตรสีชมพูในกิจการประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำ ที่จะหมดอายุวันที่ 1 พ.ย. 2560 และแรงงานทั่วไปที่จะหมดอายุวันที่ 31 มี.ค. 2561 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสัญชาติเพื่อปรับสถานภาพแรงงานกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม - 15 มีนาคม 2561 ที่ศูนย์การค้าไอที สแควร์ ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม - 12 กันยายน ที่ผ่านมา รวม 16 วัน มีแรงงานลาวและผู้ติดตามมาพิสูจน์สัญชาติและได้รับเอกสารรับรองบุคคล (CI) จำนวน 1,517 คน เป็นแรงงาน 1,449 คน ผู้ติดตาม จำนวน 68 คน ซึ่งยังมีปริมาณน้อย จึงขอย้ำให้แรงงานลาวรีบมาดำเนินการ อย่ารอให้ถึงวันสุดท้าย
นายวรานนท์ กล่าววา ขั้นตอนการดำเนินการไม่ยุ่งยาก คือ 1. แรงงานไปติดต่อที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อขอหนังสือรับรองการออกนอกพื้นที่ไปตรวจสัญชาติในราชอาณาจักรและจองคิวเลือกวันที่สะดวกในการเข้ารับการตรวจสัญชาติที่ศูนย์ฯ 2. เข้ารับการตรวจสัญชาติ โดยเตรียมเอกสารให้พร้อม คือ บัตรสีชมพู ใบนัดคิว หนังสือรับรองการออกนอกพื้นที่ และเอกสารส่วนตัวของประเทศลาวเพื่อยืนยันตัวตน เช่น ใบขับขี่ บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น มีค่าธรรมเนียมและค่าบริการออกเอกสารรับรองบุคคลเป็นเงินสด จำนวน 2,000 บาท ผู้ติดตาม 400 บาท ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อำนวยความสะดวกให้บริการตรวจลงตราวีซ่าในศูนย์ฯ มีค่าบริการตรวจลงตราวีซ่า 500 บาท และ 3. แรงงานนำเอกสารรับรองบุคคล และบัตรสีชมพู กลับไปติดต่อที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดในท้องที่ที่เป็นสถานที่ทำงานของแรงงานภายใน 15 วัน เพื่อขอใบอนุญาตทำงานต่อไป ซึ่งจะได้รับการต่ออายุวีซ่าและการอนุญาตทำงานได้อีก 2 ปี
“ศูนย์ตรวจสัญชาติแรงงานลาวที่ศูนย์การค้าไอที สแควร์ ให้บริการเฉพาะกลุ่มที่ถือบัตรสีชมพูเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำ ขอให้เร่งมาดำเนินการโดยด่วน เพราะการอนุญาตทำงานจะหมดอายุวันที่ 1 พ.ย. นี้ หากไม่ได้ดำเนินการใดๆ จะต้องกลับประเทศ และกลับมาทำงานใหม่ในรูปแบบ MOU สอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือ โทร.สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694” นายวรานนท์ กล่าว