ห้องแล็บ “การแพทย์ - รังสีวินิจฉัย” ผ่านมาตรฐานมากกว่า 90% เร่งพัฒนาเพิ่มขึ้น ตรวจวิเคราะห์รวดเร็ว ช่วยแพทย์รักษา ควบคุมป้องกันโรคได้ทัน
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบใบรับรองระบบบริหารคุณภาพและประกาศเกียรติคุณห้องปฏิบัติการทางด้านการแพทย์และรังสีวินิจฉัย ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2560 “LAB & X-RAY MOPH STANDARD DAY” ว่า ห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ทางการแพทย์และรังสีวินิจฉัย ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในการตรวจวินิจฉัย เพื่อนำข้อมูลหรือผลวิเคราะห์มาใช้ประโยชน์ในการรักษาและควบคุมป้องกันโรคได้อย่างทันต่อสถานการณ์ กรมวิทย์ถือเป็นองค์กรหลักในการพัฒนาเครือข่ายห้องแล็บ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ของทั้งแพทย์และประชาชน โดยปีนี้มีความก้าวหน้าขึ้นมาก โดยมีโรงพยาบาลได้รับรางวัลมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น และบางเขตสุขภาพได้รับการรับรองมาตรฐานครบ 100%
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ห้องแล็บทางการแพทย์และรังสีวินิจฉัยเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบการบริการสุขภาพ จึงต้องเป็นมากกว่าห้องแล็บทั่วไป โดยมีการวิจัยและพัฒนาวิธีการใหม่ๆ จากข้อมูลที่มีอยู่ให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์ และการพัฒนาบุคลากรการแพทย์ให้สามารถแจ้งผลที่ผิดปกติ ให้แพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วย และที่สำคัญต้องมีความยั่งยืน โดยให้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐานและสามารถสร้างรายได้โดยไม่เป็นภาระกับองค์กร
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีสถานพยาบาลผ่านมาตรฐานสำหรับห้องแล็บทางการแพทย์ทุกประเภท รวม 831 แห่ง จากทั้งหมด 924 แห่ง คิดเป็นเกือบร้อยละ 90 สำหรับหน่วยบริการปฐมภูมิ ได้การรับรอง รวม 3,239 แห่ง จากทั้งหมด 10,066 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 32 และห้องแล็บรังสีวินิจฉัย ได้รับการรับรอง รวมทั้งสิ้น 746 แห่ง จากทั้งหมด 767 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 97 โดยครอบคลุมโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต และกรมอนามัย ตลอดจนโรงพยาบาลในสังกัด กทม. รวมทั้งมีห้องปฏิบัติการที่ได้รับรางวัล “ผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) ประจำปี 2560” ซึ่งได้คะแนนรวมมากกว่าร้อยละ 95 อีกจำนวน 36 แห่ง