xs
xsm
sm
md
lg

14 เรื่องไม่ดีที่มากับโทรศัพท์มือถือ / ดร.แพง ชินพงศ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ไม่ว่าจะเป็นโรคปวดตึงต้นคอ โรคปวดหัว โรคปวดหลัง โรคเอ็นข้อมืออักเสบ โรคนิ้วล็อก โรคปวดแขน จากการใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นข้อมูลตัวอย่างที่ทำให้รู้ว่าโทรศัพท์มือถือที่เราใช้ติดต่อกันนั้นอาจมีโทษที่เราไม่ทันรู้ตัว วันนี้ผู้เขียนจึงมานำเสนอ 14 เรื่องไม่ดีที่มากับโทรศัพท์มือถือ ดังนี้

1. เต็มไปด้วยเชื้อโรค โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือใช้งานที่ติดตัวเราไปในทุกหนทุกแห่งทุกที่ แต่เราได้มีโอกาสทำความสะอาดมือถือบ้างหรือเปล่า มีเชื้อโรคต่างๆ ที่ติดมากับโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อโรคอื่นๆ จากการศึกษาพบว่าจากโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง จะมี 1 เครื่อง ที่มีเชื้อโรคติดอยู่ ดังนั้น เราไม่ควรละเลยที่จะทำความสะอาดมือถือเป็นประจำ

2. โรคปวดคอ การใช้เวลามากมายในการก้มลงดูโทรศัพท์ ร่างกายจะต้องเกร็งคอและเส้นเอ็นที่บริเวณลำคอลงไปถึงบริเวณบ่าหลังและแขนซึ่งจะเกิดการอักเสบขึ้นได้ เราควรใช้เวลาพักจากการก้มลงใช้โทรศัพท์มือถือในทุกๆ 20 นาที วิธีการชูโทรศัพท์มือถือขึ้นสูงๆ ในขณะส่งข้อความจะช่วยเปลี่ยนอิริยาบทได้บ้าง รวมทั้งการออกกำลังกายและการจัดท่าต่างๆ โดยวิธีทำโยคะหรือการเต้นแอโรบิกจะช่วยให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรงขึ้นและช่วยหลีกเลี่ยงการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณช่วงคอบ่าไหล่และแขนได้

3. ผิดท่าในการรับโทรศัพท์ บางคนชอบใช้วิธีรับโทรศัพท์มือถือโดยแนบเข้ากับหูและใช้คอหนีบ ในขณะที่ทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมไปด้วย ท่าเหล่านี้ไม่ใช่ท่าธรรมชาติที่จะทำให้ร่างกายทนต่อสภาพการนั้นได้ ท่าพับคอเป็นเวลานานจะเกิดกล้ามเนื้อบริเวณคออักเสบ ดังนั้น เราควรจะพักและเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อบริเวณคอไปในทิศทางอื่นเพื่อที่จะให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นผ่อนคลาย แต่ถ้ามีอาการปวดตึงมากๆให้ใช้การประคบร้อนและยาแก้ปวดก็สามารถทำให้อาการทุเลาลงได้

4. ส่งข้อความในขณะขับรถ ทำให้เราต้องจดจ่อและใช้สมาธิกับการส่งข้อความนั้นอย่างน้อย 5 วินาทีดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาที่น้อยนิด แต่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่ามีอัตราการเกิดอันตรายมากถึง 23 เท่าจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่หากเราส่งข้อความขณะขับรถประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนท้องถนน

5. พูดโทรศัพท์โดยไม่ใช้หูฟังขณะขับรถ หลายท่านอาจคิดว่ามันคงไม่เป็นไรที่จะคุยโทรศัพท์ในขณะที่เราขับรถไปด้วย แต่จากสถิติพบว่า 1,000,000 ราย ของอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดขึ้นจากการที่ผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์มือถือโดยไม่ใช้หูฟังในขณะขับรถ

6. ไม่ปิดโทรศัพท์มือถือ แสงจากโทรศัพท์มือถือจะส่งผลต่อสายตาของเรา และทำให้ส่งผลเสียต่อการนอนหลับซึ่งจะทำให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันและโรคหัวใจตามมาได้ ดังนั้น ควรปิดเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ก่อนนอนเพื่อให้การนอนหลับพักผ่อนไม่มีสิ่งใดรบกวนจากแสง สี และเสียงต่างๆ

7. เดินไปพร้อมกับพูดโทรศัพท์มือถือไปด้วย หากเราเดินอยู่ริมถนนและกำลังข้ามถนน แต่เรามีจุดสนใจในการพูดโทรศัพท์อยู่ จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การหยุดใช้โทรศัพท์มือถือในขณะเดิน จะช่วยลดอุบัติเหตุจากการสะดุดหกล้มหรือถูกรถชนได้

8. เสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง ยังไม่มีการศึกษาค้นพบถึงการเกิดมะเร็ง และเนื้องอกจากการใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ในขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามศึกษาหาข้อมูลจากสิ่งเหล่านี้อยู่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ารังสีจากการใช้โทรศัพท์อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ดังนั้น กันไว้ดีกว่าแก้ เราควรจำกัดเวลาในการใช้โทรศัพท์มือถือและใช้โดยการเปิดลำโพงเสียงเพื่อที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อหูโดยตรง

9. นิ้วและข้อมืออักเสบ เมื่อเราใช้นิ้วหัวแม่มือในการยึดและจับโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ จะทำให้ข้อมือและเอ็นข้อมือเกิดการอักเสบ ซึ่งหากเป็นมากอาจต้องใช้วิธีการผ่าตัดในการรักษาต่อไป

10. กล้ามเนื้อข้อศอกอักเสบ การใช้ข้อศอกตั้งขึ้นพร้อมทั้งจับมือถือเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการอักเสบที่ข้อศอกและบริเวณแขนได้ การยืดแขนและเปลี่ยนท่าจากอิริยาบถที่เคยทำเป็นเวลานานจะช่วยลดความปวดตึงบริเวณข้อศอกได้

11. หูมีปัญหา การเสียบหูฟังเป็นเวลานานหรือการเปิดเสียงจากลำโพงของโทรศัพท์มือถือเข้าสู่โสตประสาทเป็นเวลานานและเสียงดังๆ จะก่อให้เกิดอาการสูญเสียการได้ยินได้ ดังนั้น หากเราต้องใช้สื่อเทคโนโลยี ในการฟังเพลงหรือฟังข้อความนั้นจึงไม่ควรเปิดโทรศัพท์มือถือด้วยเสียงที่ดังเกินไป

12. ตามีปัญหา แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์มือถือจะทำให้จอตาเกิดการอักเสบและเสื่อมได้ง่าย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือและการจ้องจอภาพเป็นระยะเวลานานๆ เพราะจะส่งผลเสียต่อประสาทตาทำให้เกิดอาการตาบอดได้ในอนาคต

13. เสียสมาธิและเกิดการทำงานผิดพลาด โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือที่รบกวนสมาธิเป็นอย่างมาก เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่เราใช้ความคิดจะทำให้เราเสียสมาธิซึ่งทำให้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดได้ง่าย

14. ไม่สนใจคนรอบข้าง ในขณะที่เราใช้โทรศัพท์มือถือรวมทั้งแทบเล็ต และเครื่องมือสื่อสารเทคโนโลยีต่างๆ นั้น จะทำให้เราขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม บางครั้งคุณพ่อคุณแม่เรียกลูกแต่ลูกมัวแต่เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่จะทำให้ลูกไม่ได้ยินและไม่สนใจต่อเสียงเรียกของพ่อแม่ อีกทั้งทำให้เด็กเกิดอาการโรคสมาธิสั้น ดังนั้น ควรใช้วิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือและแทบเล็ตมากเกินไป โดยการชวนลูกทำกิจกรรมอื่นแทน เช่น ชวนให้ลูกเล่นดนตรี อ่านหนังสือนิทานกับลูก ชวนลูกวาดรูประบายสี พาลูกไปเล่นกีฬา หรือการพาลูกออกไปท่องเที่ยว

โทรศัพท์มือถือนับว่าเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ใช้ประโยชน์ในการติดต่อหากันและค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆได้อย่างสะดวกรวดเร็วไร้พรมแดน แต่การใช้ที่มากเกินไปและการใช้อย่างผิดวิธีจะส่งผลไม่ดี 14 ข้อดังที่ผู้เขียนได้กล่าวไปแล้วนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น