ก.แรงงาน เล็งออกกฎหมายจ้างงาน “คนชรา” แบบรายชั่วโมง ช่วยผู้สูงอายุไม่พร้อมทำงานเต็มเวลา 8 ชั่วโมง รับค่าจ้างวันละ 300 บาท พร้อมทำคลังข้อมูลบริษัทใดต้องการแรงงานสูงอายุประเภทใด
วันนี้ (22 ส.ค.) ในเวทีเสวนา “ขยายอายุการจ้างงาน : คุณค่าต่อสังคมไทย” จัดโดยสำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ผศ.ศุภชัย ศรีสุชาติ นักวิจัยคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การขยายการจ้างงานผู้สูงอายุจะมีต้นทุนสูงขึ้น จึงจำเป็นที่รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี สร้างแรงจูงใจในการจ้างแรงงานผู้สูงอายุด้วย ส่วนสถานประกอบการต้องมาร่วมกันวางแผนหาแนวทางร่วมกันด้วย ต้องมีการประเมินว่า ตำแหน่งงานไหนที่ผู้สูงอายุทำได้ และสามารถปรับตัวใช้เทคโนโลยีได้ด้วย อย่างอุตสาหกรรมภาคบริการ ผู้สูงอายุน่าจะอยู่ได้ เพราะมีการพัฒนาศักยภาพอยู่เรื่อยๆ แต่กลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มที่ใช้แรงงานมาอย่างเข้มข้น จนกำลังหมดเมื่ออายุมากขึ้น อย่างกลุ่มเกษตร ประมง หรือการแกะเปลือกกุ้ง ผู้สูงอายุไม่สามารถทำได้แล้ว ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีหุ่นยนต์มีมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานมนุษย์แล้ว
นายมาโนชญ์ แสงแก้ว ผู้อำนวยการกองสวัสดิการแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่กำหนดไว้ หากสถานประกอบการไม่มีกฎกติกากำหนดอายุเกษียณไว้ ก็ให้กำหนดไว้ที่อายุ 60 ปี ซึ่งตรงนี้จะเป็นการกำหนดค่าชดเชยก่อนอายุ 60 ปี หากเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดก็จะได้เงินชดเชย ส่วนการส่งเสริมให้มีการจ้างผู้สูงอายุมากขึ้นนั้น ต้องยอมรับว่า ผู้สูงอายุบางคนทำงานเต็มศักยภาพ แต่กฎหมายปัจจุบันกำหนดแค่วันละ 300 บาท จึงเปิดโอกาสให้คณะกรรมการค่าจ้างพิจารณางานในบางประเภท คือ ผู้สูงอายุ หรือเด็กนักเรียนทำงานพาร์ทไทม์ ให้ทำงานรายชั่วโมงได้ ซึ่งหากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน ทางคณะกรรมการค่าจ้างก็จะไปศึกษารายละเอียดต่อ ซึ่งตรงนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกรณีผู้สูงอายุที่ไม่พร้อมทำงานเต็ม 8 ชั่วโมง ก็ทำรายชั่วโมงได้ และยังมีมาตรการทางภาษีให้ได้อีกประมาณ 200 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งจะมีการทำคลังข้อมูลรวบรวมไว้ว่า สถานประกอบการใดต้องการแรงงานผู้สูงอายุ ประเภทงานใดบ้าง ก็จะมีจัดไว้ที่สมาร์ทจ็อบเซนเตอร์ ที่กระทรวงแรงงานด้วย สำหรับระบบสวัสดิการที่เหมือนกันหมดในทุกเจนอาจมีปัญหา เพราะคนแต่ละเจนต้องการสวัสดิการต่างกัน อาจต้องมีการจัดสวัสดิการที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งกระทรวงแรงงานพยายามพูดคุยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นายวิชิต วรรณศร ผู้แทนบริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทไม่ได้ออกนโยบายว่าเกษียณแล้วต้องจ้างต่อทันที แต่เปิดโอกาสคนเกษียณหลังอายุ 55 ปีให้สมัครเข้ามาได้ ซึ่งก็สามารถเอาเงินเกษียณก่อนได้ และสมัครใหม่ได้ตามที่บริษัทเปิด ซึ่งหากเป็นผู้บริหารระดับสูงก็ต้องมีการผ่านการพิจารณา มีคณะกรรมการในการคัดเลือก ขณะเดียวกันทุกตำแหน่งที่ยังสามารถทำงาน และบริษัทยังจ้างอยู่ก็เปิดให้สมัครเช่นกัน ส่วนเงื่อนไขค่าตอบแทน หากยังทำงานตรงนั้นได้ตามที่บริษัทคาดหวังไว้ เงินเดือน สวัสดิการก็เหมือนเดิม แต่หากเงินเดือนไม่เหมือนเดิม แสดงว่าไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิมแล้ว