xs
xsm
sm
md
lg

ศิริราชชวนบริจาคสร้างอาคาร “นวมินทรบพิตร 84 พรรษา” พร้อมซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ดูแลผู้ป่วยด้อยโอกาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศิริราชชวนประชาชนร่วมบริจาคสร้างอาคาร “นวมินทรบพิตร 84 พรรษา” พร้อมจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อดูแลผู้ป่วยด้อยโอกาส เผยชั้นใต้ดินสร้างแล้วเสร็จ เร่งสร้างชั้นที่ 1 ต่อ คาด สร้างได้เดือนละชั้น พร้อมเปิดให้บริการ 8 ชั้นแรก ส.ค. 61

วันนี้ (15 ส.ค.) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช ว่า อาคารดังกล่าวถือเป็นโครงการสุดท้ายที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแนวทางแก้ปัญหาผู้ป่วยจำนวนมากให้แก่ รพ.ศิริราช ซึ่งอาคารดังกล่าวใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 5,000 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเกือบ 3,000 ล้านบาท ต้องหางบประมาณเองราว 2,000 กว่าล้านบาท นอกจากนี้ ยังต้องมีเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ซึ่งต้องใช้อีกประมาณ 1,800 ล้านบาท จึงต้องมีการขอรับบริจาคเพื่อสมทบทุนสร้างอาคารผู้ป่วยและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว

“เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายสมุดไดอารี ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช ทั้งยังมีพระราชประสงค์เพื่อให้อาคารนี้สามารถดูแลผู้ป่วยด้อยโอกาสได้ ศิริราชจึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมสมทบทุนเพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาสทุกคน โดยขณะนี้มีเงินแล้ว 3,200 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างตัวอาคารได้ โดยชั้นใต้ดินซึ่งถือว่ายากที่สุดได้สร้างเสร็จแล้ว กำลังจะสร้างชั้นที่ 1 และจะก่อสร้างได้เดือนละ 1 ชั้น โดยคาดว่าจะเปิดบริการได้ 8 ชั้นก่อนใน ส.ค. 2561 และเสร็จทั้งหมดประมาณ มี.ค.- เม.ย. 2562” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายวานว่า สำหรับอาคารนี้มีความสูง 25 ชั้น พื้นที่อาคารรวมทั้งสิ้นประมาณ 70,000 ตารางเมตร มีชั้นดาดฟ้าและลานจอดเฮลิคอปเตอร์ สามารถรองรับการบริการรักษาผู้ป่วยนอกประมาณ 500,000 รายต่อปี มีจำนวนหอผู้ป่วยสามัญ 376 เตียง รองรับผู้ป่วยในประมาณ 20,000 รายต่อปี หอผู้ป่วยวิกฤต 62 ห้อง และหน่วยตรวจต่างๆ ได้แก่ ตรวจโรคทั่วไป และโรคเฉพาะทางด้านอายุรกรรม การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษต่างๆ อาทิ การตรวจระบบทางเดินอาหารและตับ ประสาทวิทยา โรคไต โรคด้านจิตเวช ด้านกระดูกและข้อ ด้านรังสีวินิจฉัย ด้านรังสีรักษา เป็นต้น เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นศูนย์กลางให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางที่ทันสมัยครบวงจร เป็นการเพิ่มคุณภาพการบริการและการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้รับบริการทุกหมู่เหล่าอย่างเสมอภาคและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น