กรมควบคุมโรค ชี้ ไข้หวัดใหญ่ระบาดพม่าไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ เป็นการระบาดตามฤดูกาล และไทยมีวัคซีนป้องกัน ย้ำ เฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อชายแดนเข้มตามมาตรฐานสากล
วันนี้ (2 ส.ค.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่มีรายงานข่าวว่า พม่ามีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยพบว่าโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบบ่อยในประเทศต่างๆ ในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอยู่แล้ว และไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับในวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ ประเทศไทยมีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อชายแดนอย่างเข้มข้นเช่นเดิม ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ดังนี้ 1. มีระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคในพื้นที่ชายแดนที่เข้มแข็ง 2. มีทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคร่วมกันระหว่างประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน 3. ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ และ 4. มีการประสานงานความร่วมมือระหว่างจังหวัดชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด เพื่อเตือนภัยและเฝ้าระวังโรคติดต่อที่สำคัญ
นพ.เจษฎา กล่าวว่า สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 กรกฎาคม 2560 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 53,009 ราย เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งเป็นการเกิดโรคตามฤดูกาลและในปีนี้พบผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตน้อยกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนกลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ อายุ 15 - 24 ปี อายุ 10 - 14 ปี และอายุ 25 - 34 ปี ทั้งนี้ ขอแนะนำประชาชนใช้มาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ 1. ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย 2. ล้าง คือ
ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสาร 3. เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และ 4. หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ หากมีอาการไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีไข้สูง ต้องรีบพบแพทย์โดยเร็ว