เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วย ผู้บริหาร ลงพื้นที่เยี่ยมชุมชนย่านกุฎีจีน ซึ่งชุมชนแห่งนี้มีจุดเด่นมากมายให้ค้นหา เนื่องจากมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อยู่ร่วมกัน 3 ศาสนา 4 ความเชื่อ 6 ชุมชน ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายไทย จีน ยุโรป และมุสลิม แต่คนในชุมชนไม่มีแตกแยก มีรอยยิ้มให้กัน
นายวีระ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้หน่วยงานภาครัฐส่งเสริมองค์กรศาสนา นำพลัง “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน และกลไกประชารัฐ ขับเคลื่อนสู่ชุมชนคุณธรรม สอดคล้องยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ โดยนำทุนทางวัฒนธรรมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจต่อยอดความเข้มแข็งภายในด้วยหลักศาสนาและศาสตร์พระราชา
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ได้เห็นสภาพการอยู่ร่วมกันของคนในชุมชน อยู่กันอย่างฉันมิตร มีความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยภายในชุมชนกุฎีจีนมีสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของแต่ละศาสนา วัด โบสถ์ มัสยิด และมีศาลเจ้าแม่กวนอิม อายุกว่า 500 ปี จะว่าไปแล้วชุมชนแห่งนี้มีสถานที่ทรงคุณค่ามากมาย มีบ้านโบราณสร้างสมัย รัชกาลที่ 4 มีบ้านทำขนมโบราณกุฎีจีน ที่เปิดประตูบ้าน ให้นักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ขั้นตอนการทำขนมแบบดั่งเดิมที่สืบทอดมารุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน
อีกสถานที่บ้านพิพิธภัณฑ์กุฎีจีน เป็นอีกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะถ่ายทอดเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชุมชน มีการถ่ายทอดวิถีชีวิตการติดต่อค้าขายในอดีตซึ่งส่วนใหญ่ใช้เรือขนสินค้ามาขาย แน่นอนเมื่อมีคนหลากหลายวัฒนธรรมมาอยู่ร่วมกัน อาหาร จะบ่งบอกถึงรากเหง้าได้เป็นอย่างดี ส่วนยากรักษาโรค เมื่อก่อนการแพทย์ยังไม่เจริญเฉกเช่นวันนี้ การรักษาจะใช้สมุนไพรรักษาอาการป่วย อีกสิ่งที่สะดุดตา ตะเกียง ในสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงใช้แสงสว่างจากตะเกียง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์จูงใจให้ค้นหา ถือว่าเป็นชุมชนต้นแบบทางวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร