สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาทเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ขอพุทธศาสนิกชนยึดไตรสรณคมน์ “พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” นำทางทุกขณะจิต ย่อมละอายชั่วกลัวบาป ไม่กล้าล่วงละเมิดศีล ปิดประตูสู่ความตกต่ำ
วันนี้ (7 ก.ค.) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) ประทานพระโอวาทเนื่องในวันอาสาฬหบูชา พุทธศักราช 2560 ความตอนหนึ่งว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงปฐมเทศนา อันมีนามว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน เป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา กระทั่งบังเกิดมีอริยสงฆ์ เกิดพระรัตนตรัย ณ ดิถีเพ็ญเดือนอาสาฬหะ เพราะฉะนั้น วันอาสาฬหบูชา จึงเป็นโอกาสสำคัญที่พุทธบริษัทจักได้น้อมรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ย้ำเตือนจิตใจตนให้มุ่งประพฤติตามหนทางอริยมรรคที่สมเด็จพระบรมศาสนาได้แสดงไว้เป็นครั้งแรก
ท่านทั้งหลายผู้เป็นพุทธศาสนิกชน คงเคยปฏิญาณตนถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่า เป็นที่พึ่งที่ระลึกด้วยภาษาบาลีว่า พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ,ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ,สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ โอกาสคล้ายวันบังเกิดพระรัตนตรัยครบองค์สาม ขอเชิญชวนทุกท่านทบทวนความหมายของคำปฏิญาณ ว่า แท้จริงแล้วมีสาระลึกซึ้งมากกว่าเพียงแค่พิธีกรรม ถ้าท่านเป็นผู้มีไตรสรณคมน์คอยนำทางชีวิตทุกขณะจิต ย่อมเคารพยำเกรงในคำสอนของพระศาสดา ย่อมมีความละอายชั่วกลัวบาป ไม่กล้าล่วงละเมิดศีล ซึ่งเป็นการปิดประตูสู่ความตกต่ำ และย่อมขวนขวายที่จะประพฤติธรรม ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่ความงอกงาม ถ้าทำได้ตามนั้น ความศักดิ์สิทธิ์แห่งคุณพระรัตนตรัยย่อมมีอยู่จริง และย่อมดลบันดาลให้ท่านประสบความสุขความเจริญได้อย่างเห็นแจ้งประจักษ์จริง ด้วยผลจากความดีที่ท่านเพียรประพฤติ ไม่ใช่ด้วยอานุภาพลี้ลับเหนือการพิสูจน์แต่อย่างใด
ประเพณีการบูชาพิเศษในวันอาสาฬหบูชา บังเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อเกือบ 60 ปีมาแล้วบนแผ่นดินไทย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมควรที่เราชาวไทยภาคภูมิใจ และขอจงใช้โอกาสวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา เป็นปฐมฤกษ์แห่งการรักษาสัจจะ ปฏิญาณ ที่จะละเว้นบาป บำเพ็ญความดีให้เพิ่มพูน เพื่อสันติสุขในชีวิต ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติและโลกสืบไป
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2560 ในเวลา 17.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา รอบองค์พระประธานพุทธมณฑล โดยตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 07.30 น. มีพิธีตักบาตรพระภิกษุ สามเณร บริเวณหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑลด้วย และในวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันเข้าพรรษาตั้งแต่เวลา 09.00 น. มีพิธีหล่อเทียนพรรษา เวลา 15.49 น. พิธีจุดเทียนพรรษาบูชาพระประธานพุทธมณฑล โดยการจัดงานอาสาฬหบูชาปีนี้ มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้วัดทั่วประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ตักบาตร การปฏิบัติธรรม การหล่อเทียนพรรษา การบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การเจริญพระพรชัยมงคลถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า วธ. ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน และประชาชน หัวข้อ “วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา” จากกลุ่มตัวอย่าง 2,668 คน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 20 - 30 มิ.ย. 2560 พบว่า ประชาชนร้อยละ 95.43 ทราบว่า วันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนาเป็นครั้งแรกในโลก ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ทำให้อัญญาโกณฑัญญะพราหมณ์ได้ดวงตาเห็นธรรมทูลขออุปสมบทเป็นพระภิกษุรูปแรก จนบังเกิดพระรัตนตรัย ครบทั้ง 3 คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ และ ร้อยละ 95.99 ทราบว่า วันเข้าพรรษาเป็นวันที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนตามที่พระวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่นเว้นแต่มีกิจธุระจำเป็น เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยของพระภิกษุสงฆ์
นอกจากนี้ ยังได้สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมที่ประชาชนจะทำในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา พบว่า ร้อยละ 87.07 ตั้งใจจะงดดื่มเหล้าตลอดพรรษารองลงมาร้อยละ 84.65 ไปหล่อเทียน ถวายเทียนพรรษา และเข้าอุปสมบทเป็นภิกษุ และร้อยละ 65.99 เข้าวัดทำบุญทุกวันพระตลอดพรรษาและร่วมกิจกรรมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาประจำปี 2560 นี้ รวมทั้งพบว่า ร้อยละ 83.69 สนใจเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และ ร้อยละ 61.17 สนใจร่วมพิธีวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาของหน่วยงานภาครัฐ 20 กระทรวงด้วย ที่สำคัญ ยังมีข้อเสนอแนะว่า ควรกระตุ้นให้เยาวชนตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของพระพุทธศาสนา ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชนลด ละอบายมุข ถือศีลในวันสำคัญทางศาสนาอีกด้วย
“ศน. ได้ขอความร่วมมือให้วัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเปิดวัดต้อนรับพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมทำความดี ละเว้นความชั่ว และ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ลดละเลิกอบายมุขต่างๆ ตลอดช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ สำหรับกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในวันที่ 8 ก.ค. วธ. และหน่วยงานในสังกัด จะมีพิธีปล่อยขบวนรถแห่เทียนพรรษาจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นำไปถวายพระอารามหลวง 9 วัด ได้แก่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดปทุมวนาราม วัดสามพระยา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และ วัดสุวรรณาราม” นายวีระ กล่าว