xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.ร.ร.เซนต์คาเบรียล แจง “คนใน” ร่อนบัตรสนเท่ห์ขับไล่ เหตุลุยสอบทุจริตเบิกเงิน “โอที”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผอ.ร.ร.เซนต์คาเบรียล แจง “คนใน” ร่อนบัตรสนเท่ห์ขับไล่ เหตุไม่พอใจถูกตรวจสอบทุจริตเบิกเงิน “ค่าล่วงเวลา” หลังพบความผิดปกติฝ่ายโภชนาการ ชี้ตั้งผู้เชี่ยวชาญคนนอกมาสอบเป็นเรื่องปกติ วอนเข้ามาหารือภายในหากไม่ได้รับความยุติธรรม ดีกว่าสร้างเรื่องทำโรงเรียนเสียชื่อเสียง

จากกรณีมีการส่งบัตรสนเท่ห์ไปยังอธิการเจ้าคณะเซนต์คาเบรียล แขวงประเทศไทย เพื่อขอให้ย้ายผู้บริหารรายหนึ่งออกจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล โดยระบุว่า มีพฤติกรรมไม่ใส่การบริหารงาน ทำให้งานมีความล่าช้า โดยเฉพาะการจ่ายค่าล่วงเวลาเจ้าหน้าที่ และมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกมาเป็นที่ปรึกษาแทนบุคคลภายในนั้น

ภราดา ผศ.ดร.วินัย วิริยวิทยาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเซนต์คาเบรียล กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว ว่า การมีบัตรสนเท่ห์ออกมาลักษณะนี้แสดงว่า มีบางกลุ่มบางบุคคลภายในโรงเรียนที่มีความไม่พอใจบางเรื่อง แต่อยากให้พิจารณาว่า เรื่องต่างๆ ในบัตรสนเท่ห์นั้นไม่ใช่ความเห็นของคนทั้งโรงเรียน แต่มาจากบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งตนไม่แน่ใจว่ามีจำนวนเท่าใด เพราะไม่มีการเปิดเผยหรือแสดงตัว แต่คาดว่า เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นจากความไม่พอใจที่ตนเข้ามาตรวจสอบเรื่องของค่าล่วงเวลา (ค่าโอที) ซึ่งพบว่า บางส่วนมีความผิดปกติที่อาจจะมีการเขียนเบิกเกินไปกว่าความเป็นจริงหรือไม่

ภราดา ผศ.ดร.วินัย กล่าวว่า โรงเรียนเซนต์คาเบรียลเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีโครงสร้างต่างๆ จำนวนมาก เรื่องการเงินก็ต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ให้เกิดการรั่วไหล หรือเกิดการโกง คอร์รัปชันขึ้น ซึ่งการจะพัฒนาระบบบริหารจัดการเงินให้ดีขึ้นนั้นมีอยู่ 2 วิธี คือ การลดรายจ่าย และการเพิ่มรายได้ ซึ่งในส่วนของการลดรายจ่ายนั้น ก็เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นลง จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบการเบิกเงินค่าล่วงเวลา ว่าเขียนเบิกมานั้นมีการทำงานจริงหรือไม่ และที่สำคัญคือทำงานอะไร ซึ่งก็เริ่มมีการตรวจสอบในปี 2560 นี้ และก็เกิดความวุ่นวายขึ้นในปีนี้ ซึ่งจากการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลกลุ่มหนึ่งทำให้มีการออกมาโวยวายลักษณะดังกล่าว ซึ่งไม่ทำให้เกิดผลดีต่อโรงเรียนเลย ทั้งที่ตนก็เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าพบตลอด หากคิดว่าตนเองได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว และคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรมก็สามารถเข้ามาพูดคุยหารือเพื่อหาทางออกกับตนได้

เมื่อถามถึงเรื่องการแต่งตั้งบุคคลภายนอก ภราดา ผศ.ดร.วินัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ซึ่งเริ่มจากพบความผิดปกติของการเบิกค่าล่วงเวลาในส่วนของงานโภชนาการ จึงมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกขึ้นมาตรวจสอบในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทุกองค์กรก็ดำเนินการ ถามว่าตรงนี้ผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเรื่องค่าล่วงเวลานี้จะดำเนินการไปตลอด เพราะเรื่องของการเงินต้องมีการตรวจสอบเป็นประจำ ซึ่งสิ่งที่ตนดำเนินการก็เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปราบทุจริตและคอร์รัปชัน

“ผมเป็นนักบริหารก็พยายามบริหารการทำงานต่างๆ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกำหนดระยะเวลา อย่างเรื่องของเงินเดือนครู และพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นไปตามกำหนดตลอด คือ วันที่ 25 ของทุกเดือน แต่หากติดวันหยุดก็จะออกให้ก่อนด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องของความล่าช้านั้น น่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายค่าเบิกโอทีที่ไม่เป็นไปตามกำหนดเวลา แต่ถามว่าเมื่อพบตัวเลขที่ขอเบิกนั้นผิดปกติ หรือไม่ชอบมาพากล ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนหรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องอาศัยระยะเวลาในการดำเนินการ ก็เป็นเหตุผลสมควรที่ทำให้ล่าช้าหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะไม่จ่ายเงิน แต่ต้องมีการตรวจสอบก่อน” ภราดา ผศ.ดร.วินัย กล่าว

นางชนิดา ฉิมสุวรรณ์ รองหัวหน้าฝ่ายวิชาการ ร.ร.เซนต์คาเบรียล กล่าวว่า ตนเป็นครูที่ ร.ร.เซนต์คาเบรียล มาเกือบ 30 ปี ทำงานกับผู้อำนวยการมาหลายท่าน ซึ่ง ภราดา ผศ.ดร.วินัย ท่านเข้ามาช่วยดูแลการบริหารในทุกจุด ไม่เคยทิ้งครู หรือผู้บริหาร และไม่ได้มีการบริหารงานล่าช้าแต่อย่างใด ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นตนในฐานะที่เคยทำงานฝ่ายตรวจสอบมาก่อน พบว่า มีความน่าสงสัยในเรื่องของค่าล่วงเวลาในฝ่ายโภชนาการ น่าจะมีคนมาตรวจสอบ จึงเสนอให้จ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยแต่งตั้งครูท่านหนึ่งขึ้นมาตรวจสอบ ก็พบว่า มีการถูกทำร้าย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมต่อท่าน

“ในเรื่องการทำงาน ท่าน ภราดา ผศ.ดร.วินัย เข้ามาดูแลให้คำแนะนำในโครงการต่างๆ ของครู ผู้ปกครอง และศิษย์เก่าด้วย โดยเฉพาะโครงการพัฒนาส่งเสริมวิชาการและคุณธรรม (พสวค.) ซึ่งท่านต้องการจะสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ขึ้นให้เป็นผู้นำประเทศที่ปราศจากคอร์รัปชัน แต่ถ้าตัวท่านยังปราบคอร์รัปชันในโรงเรียนไม่ได้ ก็จะไปสอนเด็กให้ปราศจากคอร์รัปชันไม่ได้เช่นกัน” นางชนิดา กล่าว

ด้าน นายนพดล องค์ศรีกูล ศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และอดีตนายกสมาคมผู้ปกครองและครู เซนต์คาเบรียล กล่าวว่า ตนเป็นศิษย์เก่า ร.ร.เซนต์คาเบรียล โดยปัจจุบันบุตรของตนก็ศึกษาอยู่ที่นี่ ซึ่งจากการเข้ามาทำงานในสมาคมผู้ปกครองฯ ภราดา ผศ.ดร.วินัย ท่านใส่ใจกับการทำงานของสมาคมฯ พร้อมให้คำแนะนำ แนวคิดต่างๆ และให้คำปรึกษาอยู่เสมอ เรียกได้ว่าท่านเสียสละและเป็นที่ยอมรับ ไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่กล่าวหาแต่อย่างใด ซึ่งการที่มีบางคนไม่พอใจและออกมาให้ข้อมูลลักษณะเช่นนี้ ทางศิษย์เก่าก็มีการพูดคุยกันว่าไม่เป็นธรรม เพราะไม่มีการเปิดเผยตัวตน แต่ก็มองว่าเป็นประเด็นที่ทางโรงเรียนต้องจัดการ แต่ตนไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ เพราะทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง
กำลังโหลดความคิดเห็น