คนใน “เซนต์คาเบรียล” ร่อนบัตรสนเท่ห์ฉบับ 2 ถึงอธิการเจ้าคณะฯ วอนแก้ปัญหาระเบียบเงินบำเหน็จ บำนาญ ช่วยเหลือครู - เจ้าหน้าที่ปัจจุบันและเกษียณ หลังถูกลิดรอนสิทธิรับเงินบำนาญ ลั่นขอให้ย้ายผู้บริหาร ร.ร.เซนต์คาเบรียล และ ผู้แก้ระเบียบ ด้านสมาคมผู้ปกครอง - ครู ร.ร.อัสสัมชัญ เสนอ 5 แนวทางช่วยเหลือ
หลังจากกลุ่มคนในโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ส่งจดหมายเป็นบัตรสนเท่ห์ถึง ภราดา สุรสิทธิ์ สุขชัย อธิการเจ้าคณะภราดาเซนต์คาเบรียล แขวงประเทศไทย เพื่อให้ดำเนินการย้ายผู้บริหารรายหนึ่งของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ไปเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีพฤติกรรมไม่ใส่การบริหารงาน และแต่งตั้งบุคคลภายนอกข้ามหัวคนใน ซึ่งหากไม่มีการย้ายอาจมีการออกมาประท้วงขับไล่
ล่าสุด กลุ่มคนในโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ได้ส่งจดหมายเป็นบัตรสนเท่ห์ฉบับที่ 2 ถึงภราดา สุรสิทธิ์ อีก 1 ฉบับ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ให้แก้ปัญหาเรื่องระเบียบของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยว่าด้วย บำเหน็จ และบำนาญ ซึ่งเป็นการจ่ายเงินให้แก่ครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ภายหลังจากเกษียณ สามารถเลือกได้ว่าจะรับเป็นบำนาญ หรือ บำเหน็จ แต่กลับมีการแก้ระเบียบไปมา ทำให้ส่งผลกระทบและไม่เป็นธรรมต่อครูและบุคลากรที่เกษียณ โดยระบุว่าระเบียบเมื่อปี 2534 มีการยกเลิก ไม่ให้เงินบำนาญ ให้แค่เงินก้อน หรือบำเหน็จเท่านั้น ต่อมาระเบียบเมื่อปี 2549 มีการช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิบำนาญหรือบำเหน็จตามเดิม
แต่เมื่อปี 2552 กลับมีการยกเลิกบำนาญบุคคลที่จะเกษียณตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไปอีก ทำให้ครูรู้สึกเหมือนถูกโกง ไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่มีกำลังใจ ทำให้ครูบางส่วนที่เก่งและดีต้องทยอยลาออก ซึ่งที่ผ่านมาเคยของให้ผู้บริหารของโรงเรียนเซนต์คาเบรียลช่วยเหลือในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับความสนใจ จึงอยากขอความช่วยเหลือจากอธิการเจ้าคณะเซนต์คาเบรียลคนปัจจุบัน ภราดา สุรสิทธิ์ สุขชัย ในการช่วยเหลือครูเกษียณ ครูปัจจุบัน และเจ้าหน้าที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนมงฟอร์ต และโรงเรียนอัสสัมชัญอื่นๆ ในเครือฯ ให้ได้รับความเป็นธรรม และมีชีวิตที่ดีหลังเกษียณ เพื่อให้โรงเรียนเซนต์คาเบรียลอบอุ่นดังเดิม โดยขอให้โยกย้ายผู้บริหารโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และผู้ที่แก้ไขระเบียบเรื่องยกเลิกเงินบำนาญ
ขณะเดียวกัน สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ มีการยื่นข้อเสนอต่อระเบียบเรื่องบำเหน็จ บำนาญ เงินสะสมร่วมและสวัสดิการ ของคณะครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอัสสัมชัญ โดยระบุว่า มีความประสงค์ในการร่วมเจรจาหาทางออกกับมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยในการกำหนดและเปลี่ยนแปลงนโยบายและระเบียบว่าด้วยบำเหน็จ บำนาญ และสวัสดิการครู และครูเกษียณ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระเบียบในแต่ละปีส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ครูและบุคลากรจำนวน 5 กลุ่ม จึงมีข้อเสนอเบื้องต้นให้แก้ไขในแต่ละกลุ่ม ดังนี้
1. คืนสิทธิการเลือกรับบำนาญหรือบำเหน็จเมื่อเกษียณอายุแก่คณะครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ปัจจุบันที่ได้รับการบรรจุก่อนปีการศึกษา 2549 ทุกคน โดยมีอายุงานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปนับตั้งแต่วันที่บรรจุ โดยคำนวณจากเงินเดือนแท้เดือนสุดท้ายตามระเบียบ
2. คณะครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่ได้บรรจุก่อนปีการศึกษา 2549 และเกษียณช่วงปีการศึกษา 2541 - 2548 ซึ่งถูกลิดรอนสิทธิในการเลือกรับเงินบำนาญ โดยขอให้คืนเงินบำนาญโดยคำนวณเงินบำนาญตามระเบียบ แล้วบวกด้วยด้วยดอกเบี้ยตามอัตราเงินเฟ้อจนถึงปัจจุบัน และเงินพึงได้ตามสิทธิได้รับขึ้นเงินบำนาญทุกปีการศึกษาใหม่ในอัตรา 10% แล้วหักลบกับเงินบำเหน็จที่ได้รับตั้งแต่แรก
3. คณะครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่เลือกรับเงินบำนาญเมื่อเกษียณตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 จนถึงปัจจุบัน มีสิทธิได้รับขึ้นเงินบำนาญทุกปีการศึกษาใหม่ในอัตรา 10% ของเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน รวมกับดอกเบี้ยตามอัตราเงินเฟ้อของประเทศจนถึงปัจจุบัน และหักลบกับขั้นเงินบำนาญที่เคยได้ไปก่อนแล้ว
4. คณะครู บุคลากรการศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตหรือลาออกก่อนเกษียณ โดยบรรจุก่อนปีการศึกษา 2549 และมีอายุงานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับบำเหน็จ 100% ของมูลค่าตามระเบียบ
และ 5. คณะครู บุคลากรการศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด โดยบรรจุก่อนปีการศึกษา 2558 และมีอายุงานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับบำเหน็จ 100% ตามระเบียบ