xs
xsm
sm
md
lg

โฉมใหม่แหล่งเรียนรู้ "ล้านนา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่มีบรรยากาศทึมๆ อีกต่อไปแล้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ปรับปรุงภายในอาคาร จัดแสงสว่างใหม่ โชว์ความงดงามของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของดินแดนล้านนาและมรดกภูมิปัญญาในเขตพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ เป็นพิพิธภัณฑ์ระดับภูมิภาค ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอาคารจัดแสดง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2516 เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี รวมทั้งงานอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ซึ่งนักเรียน นักศึกษา ประชาชนให้ความสนใจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ได้ปรับปรุงการจัดแสดงนิทรรศการถาวรใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบครุภัณฑ์จัดแสดง เน้นความงามของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุด้วยการจัดแสง ที่สำคัญเพิ่มสาระวิชาการให้สอดคล้องกับข้อมูลหลักฐานปัจจุบัน รวมทั้งการให้บริหารข้อมูลนำชมพิพิธภัณฑ์ฯด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย
น.ส.ฉัตรลดา สินธุสอน ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า นิทรรศการถาวรที่ได้ปรับปรุงครั้งนี้เน้นความรู้ด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดีและศิลปกรรมล้านนามากขึ้น โดยจัดแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการด้านประวัติศาสตร์ล้านนา ด้านสังคม วัฒนธรรม และพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดแสดงผ่านสื่อมัลติมีเดีย และระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบ QR CODE และ AR CODE ระบบไดโอรามาจำลองภาพสามมิติ พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง 360 องศา
การปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ใหม่มีทั้งหมด 16 ห้อง ส่วนจัดแสดงชั้นล่าง จำนวน 8 ห้อง ประกอบด้วย พัฒนาการพระพุทธรูปศิลปะล้านนา พระแสนแซว่ พระพิมพ์ล้านนา เครื่องพุทธบูชาและเครื่องสักการะในพระพุทธศาสนา โบราณวัตถุพบที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เครื่องถ้วยล้านนา จิตรกรรมล้านนา และศิลปะในประเทศไทย อาคารชั้นบน จำนวน 8 ห้อง
ส่วนจัดแสดงชั้นบน จำนวน 8 ห้อง ประกอบด้วย ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในภาคเหนือ สมัยประวัติศาสตร์ในภาคเหนือ อาณาจักรล้านนา ล้านนาภายใต้การปกครองของพม่า ล้านนาสมัยรัตนโกสินทร์ ความสัมพันธ์ระหว่างเชียงใหม่กับราชสำนักสยาม พระพุทธศาสนาในอาณาจักรล้านนา และคติความเชื่อทางพุทธศาสนา
น.ส.ฉัตรลดา กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรามีศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ จำนวนมหาศาล ที่ผ่านมาผู้สนใจจะเป็นนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ ที่เข้ามาศึกษา และเพื่อจูงใจกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เข้ามาศึกษาเรียนรู้ประวัติ “ล้านนา” เพิ่มมากขึ้น คือการจัดนิทรรศการครั้งนี้ไม่ได้มีแต่ป้ายคำบรรยายสั้นๆ อีกต่อไปแล้ว แต่มี QR CODE บรรจุข้อมูลรายละเอียดที่น่าสนใจ เพิ่มจอทัชสกรีนให้ทดลองทำการขุดค้นตามขั้นตอนของนักโบราณคดี จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
“การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่นำเสนอเรื่องราว “ล้านนา” มีข้อดีตรงที่สามารถใส่รายละเอียดได้ครบถ้วน ทั้งข้อมูลเนื้อหา ตลอดจนภาพประกอบ กระตุ้นให้นักเรียน นักศึกษา เข้ามาศึกษาเรียนรู้ประวัติ รากเหง้าของตัวเองมากยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชนที่อยู่พื้นที่ห่างไกล ไม่มีโอกาสเดินทางมาชมมรดกล้านนา น.ส.ฉัตรลดา กล่าวว่า ในอนาคตเราจะนำมรดกล้านนาไปให้เรียนรู้ถึงประตูบ้าน ซึ่งจะมีรถโมบายเคลื่อนที่ นำโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ สื่อสมัยใหม่ ออกไปตระเวน 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ถิ่นทุรกันดารได้มีโอกาสเรียนรู้รากเหง้าของตัวเอง
ยลศิลปะล้านนาผ่านวัดต้นเกว๋น
นอกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ยังมี วัดต้นเกว๋น หรือ วัดอินทราวาส ซึ่งคงรักษาความเป็นสถาปัตยกรรมล้านนา ได้อย่างสมบูรณ์
นายสายกลาง จินดาสุ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ กล่าวว่า โครงสร้างและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมหลักของวัดต้นเกว๋น มีการใช้เครื่องไม้เป็นหลัก ภายในวัดต้นเกว๋น มีสิ่งที่น่าสนใจคือ วิหาร ที่สร้างตามสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณที่มีความงดงาม จนได้รับการนำไปเป็นต้นแบบของหอคำหลวงในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ วิหารหลังนี้ มีความสวยงามด้านงานศิลปกรรมเป็นอย่างมาก หน้าบัน ปีกนกและส่วนต่างๆ ของวิหารมีการแกะสลักอย่างอ่อนช้อยและงดงาม ปั้นลมและหางหน้าบัน วิหารประดับตกแต่งด้วยกระจกแก้วสีแบบฝาตาผ้าหรือฝาปะกน โก่งคิ้วจาหลักไม้ลายเครือเถาสอดสลับรูปเศียรนาค มีลายปูนปั้นรูปเทพภายในวิหารประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย ซึ่งหล่อเป็นองค์เอาติดฝาผนังเป็นรูปคล้ายซุ้มพระพิมพ์ มี 2 แบบคือ แบบใบโพธิ์ปางมารวิชัย และแบบนาคปรก นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดด้วยสีน้ำ ซึ่งหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนด้านนอกวิหารยังมีศาลาราย บริเวณในเขตพุทธาวาส มณฑปจัตุรมุขเป็นแบบพื้นเมืองล้านนา ซึ่งพบเพียงหลังเดียวเท่านั้นในภาคเหนือลักษณะเป็นศาลามีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน
ส่วนกลางของศาลมีจั่วซ้อนสองชั้น มุงด้วยกระเบื้องดินเผาที่เรียกว่ากระเบื้องดินขอ ส่วนช่อฟ้าของหลังคามีความพิเศษตรงที่ช่างโบราณจะออกแบบให้มีความโค้งงอ ซึ่งนกสามารถมาเกาะได้ และที่กลางสันหลังคามีซุ้มมณฑปเล็กๆ ที่ทางภาคเหนือเรียกว่า ปราสาทเฟื้อง ลักษณะเดียวกับที่พบในภาคอีสานและประเทศลาว นอกจากนี้ยังพบอาสนะสำหรับตั้งโกศพระบรมธาตุ ซึ่งอยู่ในสภาพที่ยังคงทนดี มีฮางฮดหามบั้งไฟจุดบูชา ได้รับการแกะสลักลวดลายดอกอย่างสวยงาม
หากใครเดินทางมาเชียงใหม่ สามารถไปท่องประวัติศาสตร์ “ล้านนา” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ วันพุธ ถึงวันอาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น. ส่วนวัดต้นเกว๋น สามารถไหว้พระและเข้าชมสถาปัตยกรรมล้านนาได้ทุกวัน

















กำลังโหลดความคิดเห็น