กรมอนามัยเตรียมสำรวจสุขภาพ “ปาก” คนไทย ครั้งที่ 8 พร้อมส่องพฤติกรรมการกิน - การดูแลฟันของเด็ก หลังเจอปัญหาฟันผุมาก ด้านกลุ่มคนทำงานเจอปัญหาเหงือกอักเสบ เลือดออกง่าย
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยเตรียมสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศ ครั้งที่ 8 ปี 2560 รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมที่พึงประสงค์เด็กวัยเรียนในครั้งนี้ โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิทันตสาธารณสุข ซึ่งกำหนดลงพื้นที่สำรวจตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2560 - 31 สิงหาคม 2560 ในพื้นที่เป้าหมาย 12 เขตบริการสุขภาพ 25 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ อุบลราชธานี มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม หนองคาย สกลนคร สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา พัทลุง เพชรบูรณ์ ตาก แพร่ เชียงใหม่ กำแพงเพชร อุทัยธานี ปทุมธานี ปราจีนบุรี สมุทรสาคร เพชรบุรี ชลบุรี นครนายก และกรุงเทพมหานคร
“การสำรวจเนื่องมาจากปัญหาฟันผุในเด็กมีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการบริโภคของเด็กที่นิยมกินอาหาร หรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น เครื่องดื่มรสหวาน น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบโดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2559 พบว่า เด็กอายุ 12 ปี ร้อยละ 70 มีพฤติกรรมกินขนมกรุบกรอบ และกินเฉลี่ยวันละ 1 ครั้ง พฤติกรรมเหล่านี้นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุในเด็กแล้ว ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ และสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร มีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโตและบุคลิกภาพของเด็ก ที่สำคัญคือ ส่งผลกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียน และปัญหาฟันผุนำไปสู่การสูญเสียฟันในวัยเด็ก และอาจสะสมจนต้องสูญเสียฟันทั้งปากในวัยสูงอายุตามมา” นพ.วชิระ กล่าว
ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า ผลจากการสำรวจล่าสุดในครั้งที่ 7 ปี 2555 พบว่า เด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 51.7 และเด็กอายุ 5 ปี ร้อยละ 78.5 มีประสบการณ์ฟันน้ำนมผุส่วนเด็กวัยเรียนและเยาวชนอายุ 12 ปี และ 15 ปี พบว่า ร้อยละ 52.3 มีประสบการณ์การเกิดโรคฟันแท้ผุ โดยปัจจัยที่มีผลกระทบตรงต่อภาวะปริทันต์ของเด็ก คือ การแปรงฟัน ส่วนกลุ่มวัยทำงานอายุ 35 - 44 ปี มีปัญหาสภาวะปริทันต์ที่พบการอักเสบของเหงือกมีเลือดออกง่ายร้อยละ 39.3 และปัญหาโรคฟันผุที่ยังไม่ได้รับการรักษาร้อยละ 35.2 มีพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่องปากโดยสูบบุหรี่ร้อยละ 19.6 เฉลี่ย 11.7 มวนต่อวัน ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุพบว่า ผู้สูงอายุ 60 - 74 ปี สูญเสียฟันบางส่วนร้อยละ 88.3 สูญเสียฟันทั้งปากร้อยละ 7.2 และสูญเสียฟันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามอายุจนเมื่ออายุ 80 - 89 ปี พบสูญเสียฟันทั้งปากถึงร้อยละ 32.2
“ผู้สูงอายุ 60 - 74 ปี มีความต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปากร้อยละ 2.5 มีฟันแท้ใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมสุขภาพทั้งในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากที่พบว่า ผู้สูงอายุมีการแปรงฟันก่อนนอนร้อยละ 65.5 มีการใช้อุปกรณ์เสริมการแปรงฟัน ได้แก่ ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน เพียงร้อยละ 2.7 และ 1.1 ตามลำดับ” ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าว