พระองค์โสมฯ เสด็จเปิดงานวันงดสูบบุหรี่โลก ประทานรางวัล “World No Tobacco Day Award 2017” แก่ “ผู้จัดการ สสส.” เดินหน้าควบคุมปัญหายาสูบ ส่งผลอัตราการสูบบุหรี่คนไทยลดลงต่ำกว่า 20% เป็นครั้งแรกของไทย
วันนี้ (31 พ.ค.) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จ ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จ.ปทุมธานี ทรงเปิดงาน “วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2560” จัดโดย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ เฝ้ารับเสด็จ
นพ.ปิยะสกล กราบทูลรายงานว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ขอความร่วมมือไปยังนานาประเทศในการจัดกิจกรรมรณรงค์ลดพิษภัยจากควันบุหรี่ ที่มีสารเคมีมากกว่า 7,000 ชนิด เป็นสาเหตุการเกิดโรคร้ายแรงและมะเร็ง ผู้สูบบุหรี่จะมีอายุสั้นลงเฉลี่ย 12 ปี และป่วยหนักเป็นเวลา 2 ปีก่อนเสียชีวิต ในปีนี้กำหนดประเด็นรณรงค์ว่า “Tobacco - a threat to development” หรือ “บุหรี่ : ตัวร้ายทำลายการพัฒนา” เป็นการแสดงความห่วงใยของภาครัฐถึงประชาชน การปกป้องการคุกคามจากภัยยาสูบ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนในการลดความสูญเสียจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่และเศรษฐกิจของประเทศในการบำบัดรักษาผู้ป่วยจากการเสพติดยาสูบผ่านมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะด้านกฎหมาย ซึ่งมีการออกพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ รวมถึงมาตรการขึ้นภาษียาสูบ ที่จะช่วยตัดวงจรการบริโภคยาสูบในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้ประทานรางวัลขององค์การอนามัยโลก หรือ เวิลด์ โน โทแบคโค เดย์ อวอร์ด ประจำปี 2560 (World No Tobacco Day Award 2017) ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติ ในการรณรงค์การควบคุมการบริโภคยาสูบ องค์การอนามัยโลกจะมอบให้แก่บุคคลที่อุทิศตนดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ ผู้ได้รับรางวัลปีนี้ คือ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน และสนับสนุนการสร้างเครือข่ายเพื่อการดำเนินงานควบคุมการบริโภคยาสูบ การสร้างสุขภาวะที่ดี รวมถึงลดปัจจัยเสี่ยงหลักจากโรคที่เกิดจากการเสพยาสูบ
โดย ดร.สุปรีดา มีการทำงานตามยุทธศาสตร์ไตรพลังในการควบคุมปัญหายาสูบ คือ 1. สนับสนุนการพัฒนานโยบายตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ 2. สนับสนุนการสร้างองค์ความรู้การควบคุมการบริโภคยาสูบ จากระดับองค์กรสู่ชุมชน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติส่งเสริมตนให้มีสุขภาพที่ดี ไม่ริ เริ่ม ลองการบริโภคยาสูบ และ 3. สนับสนุนการขับเคลื่อนสังคม โดยการสร้างเครือข่ายการดำเนินงานควบคุมการบริโภคยาสูบ เพื่อลดปัญหาและป้องกันผลกระทบจากบุหรี่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งผลจากการทำงานอย่างเข้มข้น ส่งผลให้อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทยลดลงจาก ร้อยละ 25.7 ในปี 2544 อยู่ที่ตำกว่า ร้อยละ 20 ในปี 2558 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของไทยที่อัตราการสูบหรี่ลดลงในระดับนี้ นอกจากนี้ ยังได้นำแนวทางการทำงานควบคุมยาสูบมาปรับใช้กับการจัดการปัญหาปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพด้านอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ประทานรางวัลได้ประทานรางวัลให้แก่บุคคล หรือหน่วยงานที่อุทิศตนดำเนินกิจกรรม ส่งเสริม สนับสนุนการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสังคม โดยประทานรางวัลนี้เป็นประจำทุกปี ในปี 2560 นี้ กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกบุคคลและหน่วยงาน เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ จำนวนทั้งสิ้น 36 ราย แยกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 คือ จังหวัดที่มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานควบคุมยาสูบดีเด่นตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2559 - 2562 จำนวน 11 ราย ประเภทที่ 2 คือ บุคคล/หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานควบคุมยาสูบของเครือข่ายด้วยดีตลอดมา จำนวน 20 ราย ประเภทที่ 3 คือ บุคคล/หน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2560 และสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อสังคมปลอดบุหรี่ด้วยดีตลอดมาจำนวน 5 ราย