กรมวิทย์เผยผลตรวจ “น้ำประปา” พื้นที่ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ พบว่า มีคุณภาพ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ใช้อุปโภคและบริโภคได้ปลอดภัย ระบุช่วง พ.ค. ค่าความเค็มอาจสูงขึ้น แต่ไม่เกินที่กำหนด เหตุน้ำทะเลหนุน
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการตรวจเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาและค่าความเค็มในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และ นนทบุรี โดยเก็บตัวอย่างจากบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร รวม 16 เขต จาก 50 เขต จังหวัดนนทบุรี 4 อำเภอ จาก 6 อำเภอ จังหวัดสมุทรปราการ 1 อำเภอ จาก 6 อำเภอ เก็บ 1 ตัวอย่างต่อเขต หรืออำเภอ รวม 2 ครั้ง ใน ก.พ. และ พ.ค. 2559 รวมทั้งสิ้น 44 ตัวอย่าง ดังนี้ โรงผลิตน้ำบางเขน ได้แก่ เขตบางเขน สวนหลวง ลาดพร้าว ราษฎร์บูรณะ มีนบุรี สาทร บางกะปิ บึงกุ่ม ลาดกระบัง พระโขนง และ ดอนเมือง จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ อำเภอพระประแดง โรงผลิตน้ำธนบุรี ได้แก่ เขตบางกอกน้อย โรงผลิตน้ำสามเสน ได้แก่ เขตพญาไท พระนคร โรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ได้แก่ เขตตลิ่งชัน บางขุนเทียน จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ อำเภอเมือง บางบัวทอง และ บางใหญ่
นพ.สุขุม กล่าวว่า จากการนำตัวอย่างมาตรวจหาค่าความเค็ม ความเป็นกรด - ด่าง คลอไรด์ ปริมาณสารที่ละลายได้ทั้งหมด ปริมาณสารทั้งหมด คลอรีนตกค้าง โลหะ และจุลินทรีย์ ผลการตรวจวิเคราะห์ทั้ง 2 ช่วง พบทุกตัวอย่างผ่านมาตรฐานคุณภาพของการประปานครหลวง รวมทั้งผ่านเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ของกรมอนามัย สำหรับผลวิเคราะห์ เพื่อเฝ้าระวังระดับความเค็ม พบว่า ความเค็มมีค่าสูงสุดเท่ากับ 0.07 และ 0.21 กรัมต่อลิตร ในช่วงที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานค่าความเค็มของน้ำดิบ สำหรับผลิตน้ำประปาตามองค์การอนามัยโลกที่กำหนดไม่เกิน 0.25 กรัมต่อลิตร แม้ว่าผู้บริโภคจะรู้สึกว่าน้ำมีความเค็มในเดือน พ.ค. เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนจึงมีค่าความเค็มสูงกว่าเดือนกุมภาพันธ์ประมาณ 3 เท่า
“สำหรับกรณีที่น้ำประปาจากก๊อกตามบ้านเรือนอาจมีกลิ่นคลอรีนหลงเหลืออยู่ ประชาชนสามารถลดกลิ่นคลอรีน โดยการรองน้ำประปาใส่ภาชนะเปิดฝาและตั้งทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที หรืออาจนำไปต้มหรือกรองก่อนดื่มก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการบริโภคได้ และควรหมั่นตรวจสอบท่อน้ำประปาในบ้านเรือนอยู่เสมอ ว่า มีปัญหาการรั่วซึมหรือไม่ เพราะอาจทำให้ปนเปื้อนจากสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคปะปนมากับน้ำประปาและทำให้ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้” นพ.สุขุม กล่าว