ชมรม 7 วิชาชีพทางการแพทย์กว่า 200 คน บุก สธ. ทวงถามบรรจุข้าราชการ ปลัด สธ. แจงปี 2560 สามารถบรรจุได้ประมาณ 308 ตำแหน่ง เผย ทำกรอบอัตรากำลังแล้ว เตรียมเสนอ คปร. เห็นชอบเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่หรือไม่ ด้าน “หมอแล็บแพนด้า” ช่วยเพื่อวิชาชีพเรียกร้อง ย้ำงานหนัก มีความเสี่ยง ค่าตอบแทนน้อย
วันนี้ (26 พ.ค.) ชมรม 7 วิชาชีพทางการแพทย์ ประกอบด้วย นักเทคนิคการแพทย์ นักภายภาพบำบัด นักรังสีการแพทย์ นักกิจกรรมบำบัด นักจิตวิทยาคลินิก นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก และ นักเวชศาสตร์สื่อความหมายและแก้ไขการพูด รวมกว่า 200 คน เดินทางมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) เพื่อสอบถามความคืบหน้าการบรรจุเป็นข้าราชการ
นายสมคิด เพื่อนรัมย์ ประธานชมรมกายภาพบำบัดชุมชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีบุคลากรใน 7 สาขาวิชาชีพที่ค้างบรรจุข้าราชการตั้งแต่ปี 2554 ประมาณ 3,000 คน จำนวนนี้เป็นนักเทคนิคการแพทย์และนักกายภาพบำบัดรวมกันกว่า 2,500 คน ทำให้กระทบต่อขวัญกำลังใจ เนื่องจากไม่มีความมั่นคง และพบว่า มีการจ้างงานแบบรายวันจำนวน 51 คน โดยได้ค่าจ้างประมาณวันละ 500 บาท สวัสดิการต่างๆ ก็ไม่มี ซึ่งที่ผ่านมา มีการเรียกร้องและสะท้อนปัญหาให้ สธ. ฟังตลอด รวมถึงมีการยื่นหนังสือเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา จึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดตอนเสนออัตราข้าราชการตั้งใหม่จึงมีเพียงแค่พยาบาลวิชาชีพเท่านั้น ทั้งนี้ วิชาชีพกายภาพบำบัดจะเดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ทเนียบรัฐบาล และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อด้วยในวันเดียวกัน
ด้าน ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เจ้าของเพจหมอแล็บแพนด้า กล่าวว่า ตนไม่ได้ทำงานสังกัด สธ. แต่มาเพื่อช่วยเพื่อนร่วมวิชาชีพในการเรียกร้อง เนื่องจากเห็นว่า การทำงานของเทคนิคการแพทย์ที่ต้องทำงานกับเลือดถือว่ามีความเสี่ยง แต่ค่าตอบแทนไม่มาก ขระที่ภาระงานถือว่าหนัก จึงมาช่วยเรียกร้องเพื่อให้ได้รับบรรจุข้าราชการ ซึ่งเสนอว่าอาจทยอยแบ่งบรรจุก็ได้ และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการพัฒนาวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ เพื่อให้สามารถเพิ่มค่าวิชาชีพได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันค่าวิชาชีพอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ถือว่าน้อยมากในบรรดาวิชาชีพทางการแพทย์
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวภายหลังหารือกับตัวแทนชมรม 7 วิชาชีพทางการแพทย์ ว่า ทั้ง 7 วิชาชีพมีความกังวล เนื่องจากพยาบาลได้รับการแบ่งบรรจุเป็นข้าราชการ 3 ปี ก็มาสอบถามว่าวิชาชีพพวกเขาก็มีปัญหา หากจะบรรจุบ้างจะต้องทำอย่างไร และกังวลว่าอัตราว่าง 11,000 ตำแหน่งที่ สธ.จะบริหารจัดการจะเอาไปให้กับพยาบาลทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งก็ได้ชี้แจงแล้วว่า จำนวนดังกล่าวบริหารจัดการให้พยาบาลเพียง 1,000 อัตราเท่านั้น ที่เหลือก็ยังเป็นของวิชาชีพอื่น ซึ่งจากการบริหารจัดการเป็นของ 7 วิชาชีพ ประมาณ 170 ตำแหน่ง แต่เมื่อรวมกับการเคลียร์ตำแหน่งทับซ้อนและการเกษียณด้วย ปีนี้ทั้ง 7 วิชาชีพน่าจะสามารถบรรจุเป็นข้าราชการได้ประมาณ 308 ตำแหน่ง จากที่ค้างบรรจุประมาณ 3,000 ตำแหน่ง ก็ต้องค่อยๆ ทยอยบรรจุไป
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนในระยะยาวขณะนี้มีการจัดทำแผนความต้องการกำลังคนแล้ว ซึ่งก็จะมีการกำหนดว่าแต่ละวิชาชีพจะเป็นข้าราชการได้ประมาณเท่าไร อย่างทั้ง 7 วิชาชีพก็กำหนดอยู่ที่ประมาณ 75% ก็จะต้องทำเรื่องเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ว่า จะเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ให้ตามแผนกำลังคนหรือไม่ หากยอมก็จะได้อัตราข้าราชการตั้งใหม่เพิ่ม แต่หากไม่ยอมก็ต้องหาวิธีการจ้างงานอื่น เช่น พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยต้องให้มีค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ใกล้เคียงกับข้าราชการ โดยเรื่องนี้ได้มอบให้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัด สธ. ดำเนินการ
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บางวิชาชีพมีอัตราข้าราชการเกินกรอบข้าราชการแล้ว เช่น นักเทคนิคการแพทย์ เป็นต้น ส่วนกายภาพบำบัดเป็นข้าราชการอยู่ประมาณ 50% ของกรอบ จิตวิทยาคลินิก นักเวชศาสตร์สื่อความหมายฯ อยู่ประมาณ 30% ของกรอบ ดังนั้น หากมีตำแหน่งว่างก็ต้องนำมาเกลี่ยให้กับวิชาชีพเหล่านี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมด้วย” ปลัด สธ. กล่าว