สธ. คาดเหตุสาววัย 20 ปี ฉีดยาแก้ปวดท้องเสียชีวิต อาจมาจากการแพ้ยาโดยไม่รู้ตัวมาก่อน ชี้ทุกคนมีความเสี่ยงทั้งสิ้น
ความคืบหน้ากรณีวัยรุ่นสาวเข้ารักษาตัวที่ รพ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด้วยอาการปวดท้อง หลังจากแพทย์ให้พยาบาลฉีดยา ปรากฏว่า คนไข้เกิดอาการช็อกหมดสติ และ เสียชีวิต
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขต 6 กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบ และได้รับข้อมูลจากทางโรงพยาบาล พบว่า คนไข้มาด้วยอาการท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง มีถ่ายเหลว 2 - 3 ครั้ง แพทย์ได้สั่งให้พยาบาลฉีดยาลดการหดเกร็งของลำไส้ ซึ่งสักพักหนึ่ง คนไข้บอกว่า มีอาการวิงเวียนศีรษะ พยาบาลจึงฉีดยาแก้วิงเวียน ปรากฏว่า คนไข้มีอาการช็อก ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ทำการฟื้นคืนชีพ (CPR) เป็นชั่วโมง แต่อาการไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเสียชีวิต เมื่อตรวจสอบพบว่า มีความเป็นไปได้ที่คนไข้มีอาการแพ้ยาในกลุ่มลดการหดเกร็งตัวของลำไส้ ซึ่งเป็นในกลุ่มที่แพ้ยาโดยไม่รู้ตัว และเป็นอย่างเฉียบพลัน โดยทุกคนมีความเสี่ยงทั้งสิ้น เพียงแต่เมื่อเกิดขึ้นจะมีระบบทางการแพทย์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ แต่เคสดังกล่าวไม่สามารถช่วยเหลือให้กลับมาได้ ซึ่งทุกฝ่ายรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“อาการแพ้ยา มีหลายแบบ แต่หลักๆ จะมีแบบทราบว่าตัวเองมีประวัติแพ้ยาอะไร ซึ่งปกติแพทย์ พยาบาล จะทำการซักประวัติก่อนวินิจฉัยให้ยา หรือฉีดยาอยู่แล้ว แต่ในบางกรณีคนไข้ไม่ทราบว่าเคยแพ้ยา มาทราบก็ต่อเมื่อมีอาการแล้ว ซึ่งพบได้ อย่างหมอ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เป็นได้ทุกคน เรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เบื้องต้นทาง รพ. ได้ทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิตแล้ว พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือผ่านกลไกการเยียวยาเบื้องต้นของ ม.41 พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545” นพ.ธเรศ กล่าว