เครือข่ายปฏิรูประบบสวัสดิการฯ ข้าราชการ ยื่นหนังสืออธิบดีกรมบัญชีกลางท้วงออก “บัตรสมาร์ทการ์ด” รักษาพยาบาลข้าราชการ ไม่ช่วยแก้ปัญหาทุจริตเบิกจ่ายยา ชี้กลับถอยหลังเข้าคลอง เหตุสิ้นเปลืองงบ สวนทางนโยบายคนไทย 1 ใบก็พอ สิทธิบัตรทอง - ประกันสังคมก็ใช้แค่บัตร ปชช. ใบเดียว
นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประธานเครือข่ายปฏิรูประบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (คสร.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา คสร. ได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมบัญชีกลางทักท้วงโครงการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดรักษาพยาบาลของข้าราชการที่กรมบัญชีกลางกำลังเดินหน้าอยู่ในขณะนี้ด้วยข้ออ้างว่าต้องการแก้ปัญหาทุจริตของข้าราชการบางคน
“คสร. เห็นว่า โครงการบัตรสมาร์ทการ์ดของกรมบัญชีกลางนี้เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงประเด็น และทำให้เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็นทั้งยังสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่บอกว่า คนไทย 1 ใบก็พอ ขณะที่สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง และสิทธิประกันสังคมจากที่เคยมีบัตรประจำตัว ก็ก้าวหน้าเปลี่ยนมาใช้บัตรประชาชนใบเดียว แต่กรมบัญชีกลางกลับจะถอยหลังเข้าคลองออกบัตรสมาร์ทการ์ดนี้ขึ้นมา” นพ.มงคล กล่าว
นพ.มงคล กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาด้วยการทำบัตรสมาร์ทการ์ดดังกล่าว อาจยังไม่รอบคอบพอ ไม่มีเหตุผลสนับสนุนทางวิชาการที่เพียงพอและอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงประเด็นในการควบคุมค่าใช้จ่ายและลดปัญหาเรื่องการทุจริตของข้าราชการบางคน คสร. จึงได้ยื่นหนังสือถามอธิบดีกรมบัญชีกลาง 4 ประเด็นดังต่อไปนี้ คือ 1. ความคืบหน้าและแผนในการดำเนินการเรื่องการทำบัตรประจำตัวผู้ป่วยโครงการเบิกจ่ายตรง 2. มีข้อดีและข้อเสีย ต่างจากที่ได้มีการพัฒนาบัตรประจำตัวประชาชนเป็น “บัตรฉลาด” หรือ สมาร์ทการ์ด (Smart Card) มาตั้งแต่ พ.ศ. 2548 และมีนโยบาย “คนไทย 1 ใบก็พอ” อย่างไร
3. กองทุนสุขภาพ สปสช. และ สปส. ใช้บัตรประจำตัวประชาชนอย่างเดียวในการระบุตัวตนเพื่อรักษาพยาบาล (ยกเลิกการใช้บัตรทอง บัตรรักษาพยาบาลสิทธิประกันสังคม) เหตุใดกรมบัญชีกลางจึงสวนกระแสใช้บัตรอื่นเพิ่มเติม และไม่สอดคล้องกับนโยบายการบูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐ และ 4. จากกรณีที่กรมบัญชีกลางชี้แจงว่าต้องใช้งบประมาณในการทำบัตร 50 ล้านบาทสำหรับผู้มีสิทธิ 5 ล้านคน นอกจากนั้น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกหลายประเด็นในการบริหารจัดการ แล้วกรมบัญชีกลางได้ประเมินค่าใช้จ่ายเหล่านี้หรือไม่ อย่างไร และมีมูลค่าจำนวนเท่าใด