ผู้ว่าฯ อัศวิน สั่งเพิ่มคุณภาพ “อาหารเช้า” ร.ร.สังกัด กทม. เปลี่ยนถาดอาหารทั้งหมดเป็นสเตนเลส เน้นดูแลสุขอนามัย เผยโครงการโรงรับจำนำ กทม. ลดดอกเบี้ย ช่วยผู้ปกครองเรื่องเงินช่วงเปิดเทอมยังเหลือเวลาถึง 31 พ.ค. นี้
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่โรงเรียนบางยี่ขันวิทยาคม เขตบางพลัด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมความพร้อมในการเปิดเรียนวันแรกประจำปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนสังกัด กทม. ว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเทอม ตนได้มอบหมายให้ผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักการศึกษา รวมถึงผู้อำนวยการเขตและผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนในสังกัด กทม. ทั้ง 437 โรงเรียน โดยฝากให้โรงเรียนในสังกัดเน้นเรื่องของการดูแลความสะอาด ความปลอดภัยของวัสดุอุปกรณ์ และสุขอนามัยในโรงเรียน ดำเนินการเปลี่ยนถาดอาหารของนักเรียนเป็นถาดสเตนเลสทั้งหมด สิ่งสำคัญ คือ ให้สำนักการศึกษาดูแลเพิ่มคุณภาพอาหารเช้า เพื่อให้เด็กๆ มีความสุขในทุกด้าน และขอให้นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียน ไม่เกเรเพื่อจะได้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไป
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับโครงการลดดอกเบี้ยช่วงเปิดเทอมของสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ความช่วยเหลือผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในช่วงเปิดเทอมเป็นค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งเริ่มไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2560 ขณะนี้ยังเหลือเวลาถึงวันที่ 31 พ.ค. 2560 ให้รายละไม่เกิน 70,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยสำหรับผู้ปกครอง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในอัตราร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือน สำหรับการจำนำนั้นให้นำเอกสาร ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน นิสิต นักศึกษา เอกสารแสดงความเป็นผู้ปกครอง มาประกอบการใช้สิทธิในวันมาจำนำ ส่งดอก หรือไถ่ถอน
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับการส่งเสริมและดูแลคุณภาพการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. จะมุ่งสร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาและมาตรฐานวิชาการอย่างเท่าเทียมกันในทุกระดับและทุกสถานศึกษาให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล รวมทั้งขยายความเท่าเทียมทางการศึกษาให้กับโรงเรียนในทุกพื้นที่ของ กทม. โดยเฉพาะชุมชนด้อยโอกาส มีการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักเรียนในสังกัด กทม. อ่านออกเขียนได้ทุกคน อีกทั้งยังสนับสนุนให้นักเรียนมีทักษะในการสื่อสารภาษาต่างประเทศ โดยขยายโรงเรียนสองภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน พร้อมทั้งพัฒนาระบบเครือข่ายไร้สายที่มีประสิทธิภาพความเร็วสูงให้กับโรงเรียนในสังกัดทุกแห่ง และยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ร่วมสถาบันการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เพื่อนำไปสู่การคิดแก้ปัญหา และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ตลอดจนมุ่งผลิตกำลังคน ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติ ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครได้เปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กทุกคน รวมถึงกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ด้วยการเปิดให้มีโรงเรียนที่จัดการเรียนร่วม จำนวน 127 โรงเรียน
ด้าน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ข้อมูลเรื่องอาหารเช้าว่า อาหารมื้เช้ามีความสำคัญ หากรับประทานอาหารเช้าจะช่วยให้มีสมาธิ ความจำดี มีพัฒนาการที่ดี ลดการเกิดโรคเส้นเลือดในสมอง และโรคหัวใจ หากไม่รับประทานอาหารเช้า จะส่งผลให้อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย น้ำตาลต่ำ และเสี่ยงเป็นเบาหวาน