xs
xsm
sm
md
lg

3 ป.ที่ทำให้ลูก “เสียคน” / ดร.แพง ชินพงศ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พ่อและแม่เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากที่สุดต่อการกำหนดพฤติกรรมของลูก เด็กแต่ละคนจะเติบโตขึ้นเป็นคนมีนิสัยใจคออย่างไร มีบุคลิกภาพอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นสำคัญ ซึ่งหากพ่อแม่มีการอบรมเลี้ยงดูลูกอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมก็จะ การทำให้ลูก “เสียคน” ไปโดยไม่รู้ตัวดังที่จะกล่าวต่อไปนี้

1. ป. ปรนเปรอลูกมากเกินไป เด็กบางคนถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับวัตถุเงินทองมาก ลูกอยากจะได้อะไรแม้ว่าของสิ่งนั้นจะมีราคาแพงมากแค่ไหนพ่อแม่ก็จะต้องหามาปรนเปรอให้ลูกในทุกครั้งที่ลูกต้องการ ซึ่งการตามใจลูกเช่นนี้จะทำให้เด็กเคยชินกับการที่ได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการอันเป็นการบ่มเพาะให้เขาเติบโตขึ้นมากลายเป็นคนที่มีนิสัยเอาแต่ใจไม่รู้จักยับยั้งความต้องการของตนเอง ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง มีความอดทนต่ำ ไม่รู้จักการเสียสละ ไม่รู้จักการรอคอย ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ เมื่อไม่ได้สิ่งของตามที่ต้องการก็จะร้องไห้อาละวาดแต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่ถ้าไม่ได้อะไรตามที่ต้องการก็อาจทำได้ถึงขนาดทำร้ายคนอื่นหรือทำร้ายตนเองเพื่อเรียกร้องให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการนั่นเอง

2. ป. ป้อยอลูกมากเกินไป ซึ่งความหมายของป้อยอ ก็คือ “การยกย่องเยินยอจนเกินพอดี” พ่อแม่ส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันเชื่อในหลักของจิตวิทยาที่กล่าวว่าพ่อแม่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูก โดยการชมเชยลูกเพื่อให้ลูกมีความเชื่อมั่นในตนเองอีกทั้งยังเป็นการสร้าง Self Esteem (ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง การที่เห็นว่าตนเองมีค่า) ให้กับลูกอีกด้วย ซึ่งการชมเชยเมื่อลูกทำสิ่งที่ดีหรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดสำเร็จเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่การชมแบบอวยลูกมากจนเกินไปจะทำให้ลูกหลงไปกับคำชมเชยของพ่อแม่ ถ้าวันใดพ่อแม่ไม่ได้ชมเชยหรือไม่มีใครชมเชยก็จะทำให้ตนเองรู้สึกด้อยค่าและขาดความมั่นใจในตนเอง นอกจากนี้ การที่พ่อแม่ชมเชยยกยอลูกมากเกินควร จะทำให้ลูกกลายเป็นคนหลงตัวเอง คิดว่าตนเองวิเศษเหนือใครๆ ชอบดูถูกเหยียดหยามคนอื่น อีกทั้งเวลาทำในสิ่งที่ผิดพลาดก็ชอบโทษคนอื่นไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง ซึ่งการเป็นคนที่มีนิสัยเช่นนี้นอกจากจะกลายเป็นคนที่สังคมรังเกียจแล้วยังทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ยากอีกด้วย

3.ป. ปกป้องลูกมากเกินไป เป็นธรรมดาที่พ่อแม่ทุกคนจะรักและเป็นห่วงลูก แต่ก็มีพ่อแม่หลายคนที่เป็นประเภทรักและเป็นห่วงลูกมากซะจนปกป้องประคบประหงมลูกมากจนเว่อร์ โดยไม่ยอมให้ลูกหยิบจับทำอะไรเองเลย เพราะกลัวว่าลูกจะเหนื่อยและเป็นอันตราย จะสังเกตได้จากพ่อแม่บางคนที่ยังชอบป้อนข้าวให้ลูกทั้งๆที่ลูกสามารถกินข้าวเองได้แล้ว หรือยังมีพ่อแม่บางคนที่ชอบอุ้มลูกทั้งๆ ที่ลูกสามารถเดินได้เอง การที่เป็นพ่อแม่ทำอะไรให้ลูกหมดทุกสิ่งทุกอย่างจนลูกไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเองเลยนั้น จะส่งผลให้เด็กเป็นคนรักสบาย จับจด หนักไม่เอาเบาไม่สู้ เป็นคนขาดทักษะในการช่วยเหลือดูแลตนเองจนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีนิสัยลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่รู้จักแก้ปัญหา ขี้ขลาด ไม่มีความเป็นผู้นำและมักจะขาดความรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย

พ่อแม่ทุกคนย่อมรักลูก แต่ก็ควรรักอย่างมีสติ เพราะอย่าลืมว่าพ่อแม่ไม่ได้มีชีวิตยืนยาวที่จะอยู่ดูแลลูกได้ตลอดไป ดังนั้นพ่อแม่ควรอบรมเลี้ยงดูลูกให้เป็นคนที่เข้มแข็งทั้งกายใจ สามารถดูแลตนเองได้ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และถ้าไม่อยากให้ลูกเสียคนควรหลีกเลี่ยงการอบรมเลี้ยงดูลูกแบบ 3 ป. ดังที่กล่าวไปแล้วนั้นอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น