สปส.แจงมีปรับเพิ่มค่าหัวรักษาพยาบาลผู้ประกันตนเมื่อปี 57 และ 59 เผยปี 60 อยู่ระหว่างพิจารณาปรับเพิ่มให้เหมาะสมอีก หลังพบสถานพยาบาลต้นทุนเพิ่มขึ้น คนใช้บริการมากขึ้น คาดมีความชัดเจน 17 พ.ค.นี้
นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ สปส.เรียกร้องขอให้เพิ่มค่าหัวรักษาพยาบาลผู้ประกันตน เนื่องจากไม่มีการเพิ่มมานานกว่า 6 ปี และเป็นสาเหตุให้ รพ.เอกชนแบกรับภาระไม่ไหวและลาออกจากการเป็นคู่สัญญา ว่า สปส.มีการปรับค่าบริการทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับค่าบริการพื้นฐานในปี 2557 หลังจากนั้นได้มีการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งข้อมูลการใช้บริการเทียบกับข้อมูลของโรงพยาบาลในระบบทั้งหมดรายงานพบว่า ค่าบริการทางการแพทย์ยังมีความเพียงพอ และมีการปรับการจ่ายการบริการทางการแพทย์ในปี 2558-2559 รวม 12 รายการ โดยมีเรื่องที่สำคัญ เช่น การเพิ่มวงเงินสำหรับการผ่าตัดเตรียมเส้นเลือดเพื่อการฟอกไตหรือวางท่อรับ-ส่งน้ำยา ล้างช่องท้อง โดยเพิ่ม 10,000 บาท จากเดิม 20,000 บาท ต่อ 2 ปี การเพิ่มการเข้าถึงยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Stroke) และผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลับ (STEMI) โดยจ่ายค่ายาให้แก่สถานพยาบาล และการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดให้ครอบคลุมทั้ง กรณีใช้เนื้อเยื่อของตนเองเนื้อเยื่อของ พี่น้อง และเนื้อเยื่อของผู้บริจาค จาก 750,000 บาท เป็น 1,300,000 บาท โดยเน้นให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและการจ่ายให้เป็นธรรมกับโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน
นพ.สุเดช กล่าวว่า สปส.ได้ประเมินสถานการณ์ในปี 2560 พบว่า สถานพยาบาลมีต้นทุนเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีปริมาณการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น คณะกรรมการการแพทย์ได้ให้คำแนะนำในการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ โดยได้นำเสนอคณะกรรมการประกันสังคม เมื่อ ก.พ. 2560 ซึ่งคณะกรรมการประกันสังคมได้ให้ข้อเสนอแนะรวมทั้งให้มีการตั้งอนุกรรมการเพื่อพิจารณาอย่างรอบคอบภายใน 90 วัน โดยมี พลโท น.พ.กฤษฎา ดวงอุไร เป็นประธาน ซึ่งมีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง ได้ข้อสรุปให้มีการปรับการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้นทุกรายการ ตั้งแต่เหมาจ่าย/โรคเรื้อรัง/โรคที่ต้องใช้ยาราคาสูงและต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการรักษา รวมทั้งมีการจ่ายเพิ่มสำหรับการรักษาที่มีค่ารักษาพยาบาลเกิน 1 ล้านบาท เช่น การรักษาผู้ป่วยที่ประสบเหตุจากไฟไหม้ ทั้งนี้ จะสรุปรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 17 พ.ค. 2560 ก่อนที่จะเสนอ คณะกรรมการการแพทย์ และคณะกรรมการประกันสังคมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นก่อนประกาศใช้