กรมควบคุมโรค แนะ 5 วิธีไล่ยุงวิถีพุทธ ช่วยพระป้องกันโรคไข้เลือดออก แนะช่วยเก็บขยะ เปลี่ยนน้ำ ใส่ทราย ดูแลอ่างบัว ปล่อยปลากินลูกน้ำ ใช้สมุนไพรไล่ยุง
วันนี้ (9 พ.ค.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ในช่วงนี้หลายพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำขังตามภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และทำให้ยุงลายมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ช่วงนี้มีผู้ป่วยโรคที่มาจากยุงลายเพิ่มจำนวนขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกที่พบผู้ป่วยมากในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ อีกกลุ่มที่ต้องระมัดระวังและป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด คือ พระสงฆ์และพุทธศาสนิกที่มาร่วมทำบุญในวัด จากข้อมูลการสำรวจลูกน้ำยุงลายของกรมควบคุมโรค โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่ง และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ล่าสุด เดือนเมษายน 2560 พบลูกน้ำยุงลายมากที่สุด คือ ศาสนสถาน ร้อยละ 58 ของจำนวนศาสนสถานที่สำรวจทั้งหมด รองลงมาคือ โรงงาน โรงเรียน และโรงแรม ร้อยละ 39 ร้อยละ 31 และ ร้อยละ 13 ตามลำดับ ภาชนะที่พบลูกน้ำมากที่สุด ตั้งแต่มกราคม ถึง เมษายน 2560 พบว่า น้ำใช้ เช่น อ่างน้ำ บ่อซีเมนต์ และถังน้ำเป็นต้น ยังเป็นภาชนะที่พบลูกน้ำยุงลายมากที่สุด ถึงร้อยละ 54
นพ.เจษฎา กล่าวว่า ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมดำเนินกิจกรรม “เข้าวัด ทำบุญ ไล่ยุงวิถีพุทธ” ด้วย 5 วิธีสร้างบุญทุกวันพระ (ทุก 8 ค่ำ และ 15 ค่ำ) เพื่อป้องกันโรคติดต่อจากยุงลาย ดังนี้ 1. เมตตาเก็บขยะ จัดเก็บภาชนะให้ปลอดโปล่ง ยุงไม่เกาะพัก และคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง เพื่อทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง 2. เมตตาช่วยเหลือพระ ปิด เปลี่ยน และใส่ทรายเพื่อกำจัดลูกน้ำ ในภาชนะเก็บน้ำและห้องน้ำ 3. เมตตาช่วยพระท่านดูแลอ่างบัวหรือที่ปลูกพืชน้ำ โดยการปล่อยปลากินลูกน้ำ 4. ช่วยดูแลภูมิทัศน์รอบบริเวณวัด โดยปลูกสมุนไพรไล่ยุงและใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านสกัดสมุนไพรกันยุง เช่น ตะไคร้หอม เป็นต้น และ 5. นั่งสมาธิสบายไร้ยุงกัด โดยทายากันยุงทุกครั้งก่อนนั่งสมาธิ ซึ่งประชาชนอาจเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันพระใหญ่นี้ (วันวิสาขบูชา) เป็นต้นไป
“ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ซึ่งเป็นช่วงระบาดของโรคไข้เลือดออก จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1. การป้องกันการถูกยุงกัด โดยการทายากันยุง นอนในมุ้ง กำจัดยุงตัวเต็มวัยด้วยสเปรย์ ไม้ช็อตไฟฟ้า พร้อมกำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะน้ำใส นิ่ง 2. การเฝ้าระวังอาการของโรค ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าแดง ผิวหนังเป็นจุดเลือด อาเจียน ปวดท้อง และ 3. การไปพบแพทย์เร็วเมื่อป่วย ช่วงไข้ 2 - 3 วัน เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย และช่วงไข้ลดหากเกิดอาการช็อกจากไข้เลือดออก เช่น กระสับกระส่าย ชีพจรเต้นเร็วแต่เบา ปวดท้องชายโครงด้านขวา มือเท้าเย็น อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด” นพ.เจษฎา กล่าว