สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท เนื่องในวันวิสาขบูชา ยกความเกิดและดับเป็นของคู่กัน ขอละความหลงสิ่งมายา คลายความมัวเมา ยึดถือตนเอง เว้นวางแบ่งเขาแบ่งเรา ช่วยยุติความเบียดเบียน ก้าวร้าว บาดหมาง ชิงชัง หากสังคมใดทำได้ ความเมตตากรุณาบังเกิด สันติสุขแท้จริงย่อมปรากฏ
วันนี้ (9 พ.ค.) พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทเนื่องในวันวิสาขบูชา วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560 มีใจความดังนี้
ดิถีวิสาขบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว สมเด็จพระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา เสด็จประสูติมาในที่เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า และเสด็จดับขันธปรินิพพาน ล้วนเป็นไปในดิถีเพ็ญเดือนวิสาขะต่างปี หากใคร่ครวญให้ดียิ่งขึ้น ย่อมตระหนักว่า ดิถีอัศจรรย์นี้บอกธรรมแห่งความเป็นพุทธะได้หลายสถาน ด้วยการประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ คือ การเกิดพระกายมนุษย์ของพระโพธิสัตว์ ผู้จะทรงดับทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด ส่วนการตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์พระองค์นั้นก็คือ การเกิดบุคคลผู้รู้แจ้ง พ้นความเป็นสามัญมนุษย์สู่ความเป็นสัมมาสัมพุทธะ ครั้นทรงกระจ่างแจ้งเรื่องกลไกของทุกข์แล้ว มิได้ทรงเก็บงำไว้ลำพังพระองค์ แต่ยังทรงพระกรุณาชี้ทางที่จะพ้นวงจรทุกอย่างถาวรแก่พหูชนเรื่อยไป ตราบจนวันดับขันธปรินิพพาน แม้การดำรงขันธ์ของพระองค์จะดับสูญ แต่ว่าพระพุทธธรรมอันเกิดปรากฏแล้วยังคงดำรงอยู่เป็นศาสดา เกิดเป็นพระศาสนายั่งยืนมาตราบเท่าทุกวันนี้
คุณค่าของวันวิสาขบูชานอกจากเตือนให้สำนึกในพระพุทธคุณ ยังชวนให้เกิดความสลดสังเวช ว่า ความเกิดและความดับนั้น มีขึ้นทุกขณะ และเป็นของคู่กัน แม้ในความเกิดพระรูปพระโฉมของพระศาสดาก็ยังมีความดับไปตามกฎสามัญ ความระลึกชอบได้เช่นนี้ ย่อมสามารถโน้มน้าวพุทธบริษัทผู้เกิดมาแล้วบนโลกนี้ให้เพียรเจริญรอยตามบนอริยมรรค จนสู่จุดหมายที่เหนือความเกิดและดับ ด้วยการละความหลงจับยึดในสิ่งมายาทั้งปวง คลายความมัวเมายืดถือตัวถือตนลง เว้นวางการแบ่งเขาแบ่งเรา อันจะช่วยยุติความเบียดเบียน ก้าวร้าว บาดหมาง และชิงชังกัน เมื่อสมาชิกในสังคมใดทำได้เช่นนั้น ความเมตตากรุณาอย่างยุติธรรมย่อมบังเกิด สรรพชีวิตในสังคมนั้นย่อมอิงอาศัยกันได้อย่างปราศจากเวรภัย สันติสุขที่แท้ย่อมปรากฏให้ประจักษ์เห็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่อุดมการณ์
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงฟื้นฟูประเพณีวิสาขบูชาไว้ด้วยดีแล้วบนแผ่นดินไทย สมควรที่ชาวไทยจะได้สืบสานพระราชศรัทธา น้อมนำคุณค่าของวันสำคัญนี้มาสู่ตน ครอบครัวชุมชน ประเทศชาติ และโลกนี้ให้ไพบูลย์ยิ่งขึ้นไป ถ้าท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในพระสัทธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อใด ความผาสุกสิริสวัสดิ์ทุกประการย่อมบังเกิดขึ้นมานั้น