กพร.เร่งฝึกอบรม “ผู้ดูแลคนชรา” ส่งออกประเทศญี่ปุ่น หลังแดนปลาดิบแก้กฎหมายอนุญาตต่างชาติทำงานด้านดูแลผู้สูงอายุได้ คาดมีผลบังคับใช้สิ้นปีนี้ เผยฝึกอบรม 420 ชั่วโมง ฝึกงานอีก 1 เดือน พ่วงฝึกภาษา พร้อมส่งออกได้ทันทีรายได้สูงถึง 5 หมื่นบาทต่อเดือน
นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ ได้มีการคาดการณ์ว่า ในช่วงระหว่างปี 2001-2100 เป็นศตวรรษแห่งผู้สูงอายุ ซึ่งแต่ละประเทศจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศ เช่น ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาทางด้านการแพทย์ การโภชนาอาหาร เป็นต้น ซึ่งประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของการเป็นสังคมผู้สูงอายุ ส่งผลให้ญี่ปุ่นต้องการแรงงานฝีมือจำนวนมากที่จะดูแลบริบาลผู้สูงอายุ วุฒิสภาญี่ปุ่นจึงผ่านร่างแก้ไขกฎหมายควบคุมการอพยพ อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถทำงานเป็นผู้ดูแลคนป่วยหรือคนชรา ถือเป็นโอกาสดีอีกช่องทางหนึ่งที่ส่งเสริมการไปทำงานในต่างประเทศให้แก่แรงงานไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยผ่านกระบวนการของกรมการจัดหางาน และได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพในด้านต่างๆ โดยสำนักงานแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่น
นายธีรพลกล่าวว่า กพร.จึงฝึกอบรมหลักสูตรสาขาอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยใช้ระยะเวลาการฝึกอบรม 420 ชั่วโมง ฝากฝึกในสถานประกอบกิจการอีก 1 เดือน การฝึกอบรมครอบคลุมความรู้พื้นฐานและความรู้ความสามารถหลัก รวมถึงภาษา วัฒนธรรม คอมพิวเตอร์ และการประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้จะได้งานทำทันที ซึ่งการมีทักษะฝีมือประกอบกับอัธยาศัยดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีจิตบริการของแรงงานไทยจึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น
“กพร.ได้หารือร่วม 4 ฝ่าย เพื่อเตรียมความพร้อมการฝึกอบรมกับโรงเรียนอรัญญารักษ์บริบาล โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นซากุระ และสหกรณ์ Hatonoie จากญี่ปุ่น ซึ่งสหกรณ์เป็นหน่วยรับผิดชอบในการดูแลการรับผู้ผ่านการฝึกไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นโดยดูแลตั้งแต่ต้นทาง กล่าวคือ ดูแลค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป-กลับ และเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นจะมีการอบรมภาษา วัฒนธรรมเพิ่มเติมอีก 1 เดือน โดยสหกรณ์ดูแลค่าใช้จ่ายให้ และเมื่อสู่การทำงานดูแลผู้สูงอายุที่เนิร์สซิงโฮม ณ จังหวัดซิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น จะได้รับอัตราค่าจ้างเดือนละประมาณ 50,000 บาท” อธิบดี กพร.กล่าว
นายธีรพลกล่าวว่า ปลายปี 2560 เมื่อข้อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว สหกรณ์ Hatonoie ซึ่งมีสมาชิก 300 แห่ง แจ้งว่าเบื้องต้นมีความต้องการผู้ดูแลผู้สูงอายุจำนวน 80 คน ทั้งนี้ ก่อนเดินทางนอกจากการฝึกอบรมการดูแลผู้สูงอายุตามหลักสูตรแล้วจะต้องอบรมภาษาญี่ปุ่นให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่ญี่ปุ่นกำหนดด้วย และทาง กพร.จะมีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เนิร์สซิงโฮมที่จะไปทำงาน เพื่อเป็นการวัดระดับฝีมือและความสามารถ พร้อมกับสนับสนุนให้โรงเรียนอรัญญารักษ์บริบาลที่มีความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และสถานที่ เข้าร่วมเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในสาขานี้กับ กพร. ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาแรงงานไปทำงานที่ญี่ปุ่นอย่างมีคุณภาพ และจะมีการลงนามความร่วมมือ MOU ต่อไป