xs
xsm
sm
md
lg

ติงสอบ “หมอศัลย์” ช้า เปิดช่องตั้งคลินิกใหม่ ทำคนตายรอบสอง แพทยสภารับตามตัวไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เครือข่ายผู้เสียหายฯ ติงแพทยสภาสอบสวน “หมอศัลย์” ช้า เปิดช่องเปลี่ยนชื่อนามสกุล เปิดคลินิกใหม่ ทำคนตายอีกราย ด้านแพทยสภาแจง เรียก “หมอ” สอบแล้ว แต่ตามตัวไม่ได้ เผยจะเร่งสอบจริยธรรมโดยไม่รอเจ้าตัว

จากกรณีญาติผู้เสียชีวืตร้องเรียนว่า แพทย์รายหนึ่งเปิดคลินิกศัลยกรรมตกแต่งที่ จ.สมุทรปราการ และผ่าตัดพริตตี้เสียชีวิตจากอาการแพ้ยาสลบเมื่อ 3 ปีก่อน จนถูกสั่งปิดคลินิก แต่ได้มีการมาเปิดคลินิกใหม่ย่านพระราม 9 ซึ่งยังไม่ทันได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ก็ได้มีการผ่าตัดวีไลน์จนเกิดเหตุเสียชีวิตอีก แต่ล่าสุดกลับได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลแล้วนั้น

นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น ควรมีการดำเนินการตรวจสอบแพทย์ ว่า มีความผิดอย่างไรอย่างรวดเร็วกว่านี้ แต่ความเป็นจริง กลับพบว่า 1. การพิจารณาของแพทยสภาเป็นไปด้วยความล่าช้า 2. การทำงานของพนักงานสอบสวน ต้องรอการพิจารณาของแพทยสภา นอกจากผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้กระทำผิดไม่ถูกลงโทษ ยังเปิดโอกาสให้มีการกระทำผิดซ้ำได้อีก 3. การพิจารณาให้ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล โดยพิจารณาเพียงว่าผู้ขอใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะอย่างเดียว โดยไม่นำเอาพฤติกรรมการกระทำความผิดของผู้ขออนุญาตมาพิจารณา ทั้งทีทราบดีอยู่แล้ว เห็นว่าเป็นการละเลย ไม่ใส่ใจคุ้มครองประชาชน ซึ่งอาจมีประชาชนได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นได้

พญ.ชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา กล่าวว่า กรณีแรกเกิดขึ้นประมาณ 2 ปี ได้มีการแจ้งเรื่องเข้ามาทางแพทยสภาก็ได้มีการลงไปตรวจสอบและติดตามตัวแพทย์คนดังกล่าวทุกวิถีทาง แต่ไม่พบในฐานข้อมูล และตัวแพทย์เองก็ไม่ให้ความร่วมมือ จึงไม่สามารถติดตามตัวได้เลย จนกระทั่งเมื่อ ก.ย. 2559 ได้มีการร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตในกรณีที่ 2 ประกอบกับทาง สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางได้ส่งสำนวนคดีเพื่อให้ทางแพทยสภาลงไปตรวจสอบ จึงพบว่าแพทย์ทั้งสองเคสเป็นคนเดียวกัน แต่มีการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ ซึ่งในเคสที่ 2 หลังจากได้รับข้อมูลจากทางญาติผู้เสียชีวิต เราก็ได้มีการเรียกตัวแพทย์คนดังกล่าวมารับทราบและชี้แจงโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเช่นเดิม

“หลังจากที่รู้ว่าแพทย์ทั้งสองเคสเป็นคนเดียวกัน และเมื่อเรียกตัวแพทย์คนดังกล่าวแต่ไม่มา ตอนนี้คาดว่าทางแพทยสภาจะมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมเลย โดยในกรณีแรกจะตรวจสอบในเรื่องมาตรฐานการระงับความรู้สึก เนื่องจากตัวแพทย์คนดังกล่าวเป็นผู้ให้ยาสลบเอง โดยไม่มีวิสัญญีแพทย์ และกรณีที่ 2 จะมีการตรวจสอบเรื่องมาตรฐาน เพราะทราบว่ามีการผ่าตัดไปโดนเส้นเลือดดำจนทำให้ถึงแก่ชีวิต ทั้งนี้ การตรวจสอบจริยธรรมสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องรอข้อสรุปทางกฎหมาย โดยโทษสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพก็จะมีตั้งแต่ ตักเตือน ภาคทัณฑ์ ไปจนถึงยึดใบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ และเมื่อได้ข้อสรุปทางกฎหมายก็อาจจะมีการเพิ่มโทษในภายหลังได้” โฆษกแพทยสภา กล่าว

พญ.ชัญวลี กล่าวว่า ทั้งนี้ ความสวยเป็นเรื่องที่ทุกคนปรารถนา แต่ที่ผ่านมาทุกปีก็พบว่ามีหลายเคสที่เกิดอาการแทรกซ้อนตั้งแต่เล็กน้อย เช่น แผลติดเชื้อ ไม่เป็นเหมือนที่คิดเอาไว้ จนถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และเงินที่เสียไปด้วยว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะหากผิดพลาดไปก็ทำให้ต้องเสียเงินในการแก้ไข และเสี่ยงต่อชีวิตด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น