กรมคุมประพฤติ จัด “ดื่มแล้วขับ” ช่วงสงกรานต์ พาเข้าห้องดับจิต หวังคนทำผิดเห็นผลกระทบจริงที่เกิดจากอุบัติเหตุทางถนน กระตุ้นจิตสำนึก
วันนี้ (19 เม.ย.) พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ร่วมกับ นพ.สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จัดแถลงข่าว “คุมประพฤติจัดหนัก ดื่มแล้วขับ เข้าห้องดับจิต” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 3,690 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 390 ราย และผู้บาดเจ็บ 3,808 ราย ซึ่งมีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ 120 แห่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 5,173 คดี แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 4,856 คดี ขับเสพ จำนวน 278 คดี ขับรถประมาท (ตามประมวลกฎหมายอาญา) จำนวน 39 คดี และจังหวัดที่มีสถิติคดีสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครพนม จำนวน 402 คดี สำนักงานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร จำนวน 287 คดี สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 285 คดี
พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการบังคับใช้กฎหมายตามคำสั่งศาลของกรมคุมประพฤติ ซึ่งมีการส่งผู้กระทำผิดในคดี ขับรถขณะเมาสุรา ทำงานบริการสังคมในสถานพยาบาล รวมทั้งดำเนินกิจกรรมการกระตุ้นจิตสำนึกและรับทราบถึงความสูญเสียต่างๆ โดยการพาผู้กระทำผิดไปเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากอุบัติเหตุทางถนน ทั้งในส่วนของห้องฉุกเฉินและห้องดับจิต รวมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและสภาพของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและพิการจากอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ กรมคุมประพฤติมีมาตรการนำเครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) มาใช้กับผู้ถูกคุมความประพฤติทุกกลุ่ม ทุกฐานความผิด ซึ่งคาดว่า จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือนมิถุนายน 2560 รวมทั้งมาตรการลงโทษทางสังคม (Social Sanction) สำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข มาตรการ “ประสานจับกุม” ซึ่งเป็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ผิดเงื่อนไข เพื่อให้ผู้กระทำผิดตระหนักว่า “ไม่มีเรา ท่านเข้าคุก”
ด้าน นพ.สมบูรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมียอดผู้มาปฏิบัติหน้าที่บริการสังคมในโรงพยาบาล จำนวน 2,314 ราย โดยจัดกิจกรรมศึกษาดูงานและทำงานบริการสังคม อาทิ ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน หอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย และห้องดับจิต เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จะพิจารณาตามศักยภาพ บุคลิกภาพ ความรู้ความสามารถพื้นฐานเดิม และเพศ ให้เหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล ทั้งนี้ ทุกมาตรการของกรมคุมประพฤติ ล้วนมุ่งหวังเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกแก่ผู้กระทำผิดในคดีขับรถขณะเมาสุรา ขับรถประมาท และคดีอื่นๆ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 รับทราบถึงความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งในช่วงเทศกาลต่างๆ และช่วงเวลาปกติด้วย