สงกรานต์วันที่ 3 เกิดอุบัติเหตุรวม 1,743 ครั้ง ดับรวม 167 ราย บาดเจ็บอีก 1,795 คน เผย “ชัยภูมิ” จังหวัดเดียวที่ยังไร้อุบัติเหตุ “โคราช” ยังเสียชีวิตสูงสุด 9 ราย
วันนี้ (14 เม.ย.) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2560 ว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุ 748 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 79 ราย ผู้บาดเจ็บ 752 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ 402 ครั้ง ร้อยละ 48.80 ขับรถเร็ว 240 ครั้ง ร้อยละ 27.54 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 668 คัน ร้อยละ 86.53 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 62.97 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.70 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 34.63 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 32.89 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 18.17
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,043 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,141 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 795,063 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 136,509 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 38,746 ราย ไม่มีใบขับขี่ 36,457 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ และ อุดรธานี 33 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สกลนคร และ กรุงเทพฯ จังหวัดละ 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่เชียงใหม่ 37 คน
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า สำหรับการสรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 3 วัน (11-13 เมษายน) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,743 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 167 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 1,795 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 16 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 3 วัน ได้แก่ ชัยภูมิ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 83 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 9 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ 86 คน
“สงกรานต์ปีนี้นายกฯ และรัฐบาลไม่ได้มองแค่สถิติการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น เพราะทุกชีวิตมีค่าสำหรับรัฐบาล แต่เน้นการสร้างความปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่รณรงค์เฉพาะเทศกาล แต่จะสร้างให้เป็นวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนของคนไทย โดยได้ศึกษาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุย้อนหลัง 5 ปี โดยมีข้อกำหนดในการขับขี่รถ “4 ห้าม 2 ต้อง” คือ ห้ามเร็ว ห้ามเมา ห้ามง่วง และห้ามใช้โทรศัพท์ ส่วน 2 ต้องคือ ต้องสวมหมวกนิรภัย และต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งในรถโดยสาร เชื่อว่า จะสามารถลดการสูญเสียและการเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ผู้ที่เดินทางไปร่วมเทศกาลสงกรานต์ในภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัดควรทยอยเดินทางกลับ และวางแผนการเดินทาง รวมถึงศึกษาเส้นทางลัดต่างๆ ขณะที่ภาพรวมการท่องเที่ยวนั้น นักท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 5 ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8” นางกอบกาญจน์ กล่าว
ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่า รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และมีสาเหตุสำคัญจากการขับรถเร็ว ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุค่อนข้างสูง ประกอบกับการจราจรในวันนี้บนถนนสายหลักจะมีปริมาณรถน้อย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ศปถ. จึงได้กำชับให้จังหวัดกวดขันการใช้ความเร็วโดยเฉพาะรถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ และรถตู้โดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง ส่วนถนนสายรองให้คุมเข้มรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ