กรมสุขภาพจิต เตือน “ลูกทัวร์ทริปญี่ปุ่น” ถูก “ซินแสโชกุน” ลอยแพ อย่าโทษตัวเอง โทษคนอื่น หรือโทษระบบ แนะใช้สติ เปลี่ยนมุมมองความผิดพลาดให้บทเรียนอะไรแก่ตัวเอง จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือให้ได้ทรัพย์สินคืน ช่วยคลี่คลายความรู้สึกประชาชน เรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้
จากกรณี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ศรัณย์พัชร์ กิติขจรพัชร์ หรือ ซินแสโชกุน และกลุ่มขบวนการแชร์ลูกโซ่ บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด (WealthEver) ที่ลอยแพลูกทัวร์กว่า 2,000 คน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จนเกิดวามวุ่นวายภายในสนามบินเมื่อคืนที่ผ่านมา
วันนี้ (12 เม.ย.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ผู้ที่เผชิญความผิดหวังจะมีปฏิกิริยาทางความนึกคิดออกมา 3 แบบ คือ 1. กล่าวโทษ ตำหนิตัวเอง เช่นโง่ ไม่ทันคน 2. ตำหนิคนอื่นว่าไม่ดี เลวร้าย และ 3. ตำหนิระบบ ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นผลดี จะเป็นการซ้ำเติมให้มีความทุกข์ใจมากขึ้น มากไปกว่านั้นอาจก่อให้เกิดการขยายวงความไม่ไว้วางใจต่อผู้คนและสังคมในวงกว้างที่เกินเลยออกไปได้ จึงขอให้ประชาชนใช้โอกาสนี้ ปรับมุมมองใหม่ โดยใช้สติใคร่ครวญ ไตร่ตรองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเหตุการณ์นี้สอนหรือให้บทเรียนอะไรแก่เราแทน เป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยประสบหรือคำนึงถึงมาก่อน
“จากเหตุการณ์ครั้งนี้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งตรวจสอบ เป็นธุระ ดำเนินการแก้ไขจัดการ เพื่อให้ได้ทรัพย์สินที่เสียไปคืนมา แม้จะไม่ได้ครบก็ตาม จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน และจะช่วยผ่อนคลาย รู้สึกดีขึ้น ในส่วนของประชาชนเอง ให้เรียนรู้เหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเฉพาะการโฆษณาเชิญชวนในรูปแบบของการบอกต่อกันปากต่อปาก เช่น เพื่อนบอกกันต่อๆ มา จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลทุกครั้งก่อนตัดสินใจ การไว้วางใจคนอื่น แม้เป็นเรื่องที่ดี แต่หากขาดการตรวจสอบรายละเอียดอย่างชัดเจน ถี่ถ้วน อาจนำมาซึ่งการสูญสียทั้งทรัพย์สิน เงินทอง ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันได้ ทั้งนี้ หากประชาชนยังไม่สบายใจ ต้องการการพูดคุย สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว